เช้าข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้อาจเรียกได้ว่ามีหลายอย่างที่คนไทยได้เฮ ไล่ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าจะลดลง มากกว่าที่เคยมีการประกาศไว้ ไปจนถึงเริ่มมีความชัดเจนให้เห็นแสงรำไรว่า ปลายปีนี้มีความหวังว่าค่าแรงขั้นต่ำจะปรับขยับไปที่ 400 บาทต่อวัน เรียกว่างานนี้ นายกฯ เศรษฐา เทหมดหน้าตัก
เพิ่มค่าแรงมาแล้ว คาดรู้ผล 400 บาท/วัน เดือน พ.ย.นี้
ไปเริ่มกันที่ค่าไฟฟ้าก่อนเลย เป็นการขันน็อตแน่น ๆ จาก นายกฯ เศรษฐา โยนการบ้านให้ กฟผ.ไปดำเนินการ กดราคาค่าไฟฟ้า ที่เดิมวางไว้ว่าจะลดจาก 4 บาท 45 สตางค์ เป็น 4 บาท 10 สตางค์ ในรอบบิลตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม ล่าสุดลดลงเพิ่มได้อีก 11 สตางค์ ทำให้ค่าไฟฟ้าต่ำกว่า 4 บาท เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีเศษ หลังมีการปรับมาที่ 4 บาท ตั้งแต่พฤษภาคมปีที่แล้ว ก่อนที่จะขยับขึ้นมาเรื่อย กระทั่งกำลังจะลดลงเหลือ 3 บาท 99 สตางค์ ในรอบบิลกันยายน-ธันวาคมนี้
ข่าวดียังไม่จบเท่านี้ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ที่ทวงถามกันมากว่า รัฐบาลเศรษฐา น่าจะลืมคำสัญญาเมื่อสายัณห์ไปแล้วละมัง ว่าจะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 ตอนนี้อาจจะไม่ถึง แต่มีขั้นบันไดแรกกำหนดที่ 400 บาทต่อวันก่อน โดยคาดว่าจะทราบความชัดเจนภายในเดือนพฤศจิกายน เพื่อปรับขึ้นค่าแรง ในเดือนมกราคมปีหน้า
ทั้งสองเรื่องเป็นมติ ครม.ที่ออกมา ก่อนที่นายกฯ เศรษฐา จะบินลัดฟ้าไปสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมประชุมสหประชาชาติ จบภารกิจในวันที่ 24 กันยายน หลังกลับมาถึงประเทศไทย มีแผนใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่พัก 3-4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้การทำงานรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว ท่านพูดเรื่องนี้ไว้ในงานเสวนาในหัวข้อ "Future Perfect เปิดมุมคิด พลิกอนาคต" ของ Thairath Forum 2023 และบอกด้วยว่า ตั้งแต่เข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ประมาณ 10 วินาที
"เศรษฐา" ปะทะ "ชัชชาติ" ชนกำปั้น กระชับงาน กทม.-รัฐบาล
แต่คนนี้นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. นานกว่า 10 วินาทีแน่นอน สำหรับผู้ว่าฯ ชัชชาติ เมื่อวานได้ชกมือกับ นายกฯ เศรษฐาด้วย อย่างที่คุณผู้ชมเห็นตามภาพเลย ทีมข่าวของเรา ติดตามดูกำปั้นของนายกฯ เศรษฐา ยังอยู่ครบกระดูกไม่หัก จากการชนกำปั้นกับ ผู้ว่าฯ ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
งานนี้ได้ข้อสรุปจะจัดตั้งคณะกรรมการเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร ระยะเร่งด่วน หรือ Quick Win เน้นหนักไปเรื่องประสานงานกันเข้มข้นระหว่างรัฐบาล และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บูรณาการแก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาการจราจรติดขัด อาชญากรรม
"หมออ๋อง" ฉาวไม่แผ่ว เจอขุดทริปสิงคโปร์ หรูหรา ภาษีหลวง
จากบรรยากาศชื่นมื่น ระหว่างนายกฯ เศรษฐา กับ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ไปดูวิบากกรรมของ หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 กันบ้าง อาจเรียกได้ว่าอยู่ในช่วงพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งมา เรื่องฉาวมาแรงแบบไม่มีแผ่ว จบเรื่องเบียร์ หมูกระทะ พอกลิ่นควันจากเตาหมูกระทะเริ่มจาง เจอชาวเน็ตออกมาชำแหละการตั้งเบิกงบประมาณ 1,379,150 บาท สำหรับเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ เดือดจนถึงขั้นดัน แฮชแทก "ภาษีกู" ขึ้นเทรนด์อีกครั้ง
และยังมีเสียงแซะแรงจาก ลอรี่ พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ พุ่งเป้าไปที่ค่าที่พักคืนละ 12,500 บาท พร้อมสรุปเป็นทริปไปเที่ยวแบบ หรูหรา ภาษีหลวง
แต่หมออ๋อง ก็ยังโนสน โนแคร์ มั่นใจการใช้งบประมาณมีความโปร่งใส หากมีเงินส่วนต่างก็ส่งกลับเข้าคลัง และงานนี้ไม่ได้มีแค่ สส.จากพรรคก้าวไกล ที่ร่วมคณะไปเท่านั้น แต่ยังมีเพื่อน สส.ต่างพรรค ด้วย
"พล.ต.อ. พัชรวาท" ยืนยันไร้ปัญหา ถูก "เพื่อไทย" รวบงานกระทรวงเกษตรฯ
เรื่องร้อน ๆ ไม่ได้มีแค่ในโซเชียล แต่ใน ครม.ก็ระอุไม่แพ้กัน จากปัญหาความไม่ลงตัวเรื่องการแบ่งงาน ซึ่งคุกรุ่นมาตั้งแต่ นายกฯ รวบงานกระทรวงเกษตรฯ ไปให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ดูแล แทนที่จะเป็นพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯจากพรรคพลังประชารัฐ แม้เจ้าตัวจะบอกไร้ปัญหา แต่ปัญหากลับไปโผล่ที่กระทรวงเกษตรฯ แทน หลังนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ จากพรรคเพื่อไทย ออกมาโวยว่า แบ่งงานยังไงให้รัฐมนตรีช่วยฯสองคน คนละ 4 หน่วยงาน
ส่วนเจ้ากระทรวง กินรวบมากกว่า 10 หน่วยงาน เรียกว่า มากกว่ารัฐมนตรีช่วยฯ ถึง 3 เท่า งานนี้ต้องรอดูจะเคลียร์จบอย่างไร เพราะทาง นายไชยา ก็ดูจะไม่ยอมง่าย ๆ ยื่นคำขาด ต้องแบ่งงานใหม่