เช้านี้ที่หมอชิต - ศาลอาญาฯ เลื่อนตรวจหลักฐานคดี แอม ไซยาไนด์ เป็นวันที่ 20 พฤศจิกายน หลังทนายแอมค้านเอกสารหลักฐานฝ่ายโจทก์ทั้งหมด อ้างยื่นล่าช้า ขอเวลาตรวจสอบก่อน
เบิกตัว แอม ไซยาไนด์ ขึ้นศาลฯ ทนายเดชา ลั่นเอาผิดได้
เมื่อวานนี้ (2 ต.ค) นางสาวสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ถูกเบิกตัวออกจากทัณฑสถานหญิงกลางมาที่ศาลอาญารัชดา พร้อมด้วย พันตำรวจโท วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของแอม และ นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือ ทนายพัช ทนายความของแอม หลังทั้ง 3 คน ตกเป็นจำเลยในคดีวางยาและฆ่าประสงค์ต่อทรัพย์ มีผู้เสียชีวิตรวม 14 คน
ซึ่งศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดี ระหว่างพนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางสาวสรารัตน์ จำเลยที่ 1 ความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่น ๆ อีกหลายคดี ส่วน พันตำรวจโท วิฑูรย์ และนางสาวธันย์นิชา จำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานช่วยเหลือจำเลยที่ 1 มิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน
ขณะที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาที่ศาล พร้อมกับแม่ของนางสาวก้อย 1 ในผู้เสียชีวิต เผยว่า มั่นใจเอาผิดจำเลยทั้ง 3 คน ได้ เพราะคดีนี้พยานหลักฐานชัดเจนทั้งนิติวิทยาศาสตร์ ผลการชันสูตรพลิกศพ และวัตถุพยาน หากฝั่งจำเลยยังคงยืนกรานต่อสู้คดี อาจจะใช้เวลาอีก 4-5 ปี เพราะพยานหลักฐานมีจำนวนมาก
ทนายพัช มั่นใจ แอม รอด เชื่อ ตร.มีส่วนเอี่ยวสั่งซื้อไซยาไนด์
ด้านทนายพัช ที่มาในฐานะจำเลยและทนายความของแอม บอกว่า มั่นใจในหลักฐานพยานไม่แพ้ฝั่งโจทก์ โดยหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะนำมาต่อสู้ คือ ใบบันทึกประจำวัน เรื่องที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม สั่งซื้อไซยาไนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ ไว้ตามตำแหน่งต่าง ๆ ก่อนจะเข้าตรวจค้น เพื่อให้มีหลักฐานทางคดี เชื่อว่าศาลจะต้องยกประโยชน์ให้กับจำเลย เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยาน และพยานแวดล้อม
ศาลฯ เลื่อนตรวจหลักฐาน แอม 20 พ.ย.
ศาลพิจารณาคดีเสร็จสิ้น เวลา 12.15 น. ทนายเดชาเผยว่า ศาลได้เลื่อนนัดไปตรวจพยานหลักฐานวันที่ 20 พฤศจิกายน เพราะทนายพัชได้คัดค้านหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่กล่าวหาว่าแม่ของก้อยไม่ใช่แม่ตัวจริง เนื่องจากแม่มีการเปลี่ยนชื่อก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ทนายพัชยังคัดค้านเอกสารหลักฐานทั้งหมดว่า ฝ่ายโจทก์ยื่นล่าช้า จึงขอเวลาตรวจสอบก่อน
ส่วนจำเลยทั้ง 3 คน ยังให้การปฏิเสธไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งศาลได้แนะกับทนายพัชว่า ทนายความสามารถให้คำปรึกษาลูกความได้ แต่อย่าเกินเลยจนกลายเป็นการยุยงส่งเสริม
ขณะที่ แม่ของนางสาวก้อย บอกว่า แอมไม่พูดด้วยเลย แต่ตนได้พูดออกไปว่า ขอให้ติดคุกให้ตาย เวรกรรมตามสนอง เพราะมาพรากลูกพรากแม่ ซึ่งแอมก็นั่งเฉย ทำเหมือนไม่ได้ยิน เหมือนไม่เห็นตน ทั้งนี้ สังเกตแอมมีลักษณะเปลี่ยนไปมาก ผอมลงเหลือตัวนิดเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ของนางสาวก้อย ยังได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับจำเลย เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาเป็นค่าปลงศพ ค่าอุปการะเลี้ยงดูกว่า 30 ล้านบาท
