ห้องข่าวภาคเที่ยง - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สั่งตรวจสอบโรงงานพลุในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ก่อนงานประเพณียี่เป็ง หลังเกิดเหตุบั้งไฟระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน
ความคืบหน้ากรณีบั้งไฟระเบิด ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านเมืองขอน ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เจ้าของบ้านชอบทำบั้งไฟ ซึ่งทางเทศบาลตำบลป่าไผ่เคยมาห้าม และว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว พร้อมทั้งแนะนำว่า ถ้าต้องการจะทำบั้งไฟ ต้องขอใบอนุญาตจากทางอำเภอให้ถูกต้อง ส่วนการเกิดเหตุในครั้งนี้ ผู้ตายกำลังนั่งทำบั้งไฟอยู่ในบ้าน และเกิดระเบิดขึ้นมา โดยการกระทำดังกล่าวนั้น ไม่ได้ขออนุญาต จึงสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทำบั้งไฟหรือไม่ โดยให้รายงานผลภายใน 7 วัน และสั่งตรวจสอบโรงงานพลุในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
วันนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่บ้านเมืองขอน เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจของคนในบ้าน และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากบั้งไฟระเบิด
ญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า ขณะที่เกิดเหตุ ตนและสามีได้นอนพักผ่อนอยู่ และได้ยินเสียงระเบิด จึงวิ่งไปหลังบ้าน ก่อนไปตรวจสอบภายในบ้าน พบว่า กระจกหน้าต่างและบานเกล็ด แตกกระจาย ประตูและฝ้าเพดานพังลงมา
พันตำรวจเอก นฤบาล จิตทยานันท์ ผู้กำกับการ สภ.แม่โจ้ กล่าวว่า ได้เข้าเก็บหลักฐาน โดยเฉพาะส่วนประกอบในการทำบั้งไฟว่า จะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดหรือไม่ หรือมีการนำส่วนผสมต่าง ๆ มาประกอบ ทำให้เกิดการระเบิด ซึ่งถ้าส่งหลักฐานไปตรวจพิสูจน์ มีผลออกมาว่า เข้าข่าย พ.ร.บ.อาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด จะแจ้งข้อหากับผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งจะขยายผลในการซื้อวัตถุระเบิดมาจากไหน เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม
สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เคยเกิดเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด ในอำเภอดอยสะเก็ด เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ทำให้บ้านพังเสียหาย 30 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 คน
