เช้าข่าว 7 สี - จริง ๆ เรื่องของ ผู้กำกับเบิ้ม จบชีวิตตัวเอง ก็ผ่านมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่เพราะมีข้อสงสัย เมื่อวาน สส.วิโรจน์ ถึงไปยื่นหนังสือกับ DSI เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ผู้กำกับเบิ้ม เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่
ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล บอกว่า มีข้อสงสัยหลัก ๆ ด้วยกัน 3 เรื่อง คือ ถูกกักตัวที่โรงแรมหรือไม่ เพราะมีตำรวจเฝ้าด้านหน้า ริบมือถือ ไม่แจ้งให้ญาติทราบว่าพาผู้กำกับเบิ้มไปพักที่โรงแรม ประกอบกับมีรายงานด้วยว่า ผู้กำกับเบิ้มต้องใช้บันไดหนีไฟเพื่อกลับบ้าน แสดงว่าเจ้าตัวไม่ยินยอมพร้อมใจหรือไม่ ทำให้ตัดสินใจรวบรวมข้อมูลในด้านต่าง ๆ นำไปยื่นหนังสือถึง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของ พันตำรวจเอก วชิรา ยาวไธสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม อดีตผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่อาจเข้าข่ายมีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย
นายวิโรจน์ บอกว่า ตนเองไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่ที่ติดใจคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการเสียชีวิต เพราะก่อนจะเกิดเหตุนี้ มีประเด็นเรื่องของการเสียชีวิตของ "สารวัตรศิวกร" มีประเด็นเรื่องส่วยสติกเกอร์ ซึ่งเกี่ยวพันกับข้าราชการระดับสูง เมื่อคดีมีความซับซ้อน จึงต้องขอให้ DSI เข้าไปตรวจสอบคลายข้อสงสัย
ส่วนที่ก่อนหน้านี้นั้น มีนายตำรวจระดับสูงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เหตุผลที่จะต้องยึดโทรศัพท์ของผู้กำกับเบิ้ม เพราะกลัวว่าจะเสพสื่อสังคมออนไลน์มากจนเกิดภาวะเครียด ส่วนตัวมองว่า โดยวิสัยของคนทั่วไป การให้คนที่มีภาวะเครียดคอยเปิดโทรศัพท์เอาไว้ตลอดเวลา เผื่อมีเรื่องฉุกเฉินจะได้โทรหากัน ติดต่อได้หรือให้เพื่อนโทรมาระบายความเครียด คือการแสดงความเป็นห่วงเป็นใยที่แท้จริง และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามารถโต้แย้งกันไปมาได้ จึงควรต้องมีการสอบสวนให้กระจ่าง
