ผู้เสียหาย จากเหตุกระบะใส่เกียร์ค้าง พุ่งทะลุกำแพงบ้าน โอดผ่านมา 3 สัปดาห์ ประกันเงียบกริบ ทั้งที่หลังเกิดเหตุคู่กรณีแจ้งเคลมแล้ว ประกันบอกรอ 7 วัน ตอนนี้เดือดร้อนหนัก ต้องคอยโทรถามความคืบหน้าเอง
จากกรณี กระบะพุ่งชนรั้วบ้าน ซึ่งผู้ใช้ติ๊กต็อก : @yuizyma2922 เป็นผู้เสียหาย ได้โพสต์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดไว้ให้ดูเป็นอุทาหรณ์ หลังจากมีรถกระบะคันหนึ่ง ได้พุ่งมาชนจนทะลุกำแพงบ้านของตนเองได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเม่อวันที่ 2 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กระบะใส่เกียร์ค้าง พุ่งทะลุกำแพงบ้านคนอื่น
โดยผู้โพสต์ได้เปิดเผยกับทีมข่าวออนไลน์ 7HD ว่า คนขับรถกระบะคันดังกล่าว อ้างว่า ลูกของคนขับได้ใส่เกียร์ค้างไว้ (เกียร์1) แต่ใส่ไว้ตอนไหนไม่รู้ เป็นจังหวะที่คนขับรถกระบะ จะออกไปรับแฟนที่เพิ่งเลิกงาน โดยขึ้นไปสตาร์ตรถไว้ในลักษณะขึ้นไปแค่ครึ่งตัว พอเหยียบคลัตช์หมุนกุญแจ รถก็เคลื่อนตัวออกไป แล้วคนขับน่าจะตกใจ จะเหยียบเบรกแต่ไปโดนคันเร่ง เลยทำให้รถพุ่งมาอย่างแรง
ซึ่งได้แจ้งประกันตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว ตอนนี้ได้ให้ช่างประเมินมูลค่าความเสียหาย ส่วนโครงสร้างของประตูรั้วบ้าน อยู่ที่ 66,000 บาท แต่ส่วนของใช้ที่เสียหาย ก็ได้แจ้งกับประกันไปแล้วเช่นกัน ขณะที่คนขับรถกระบะก็ได้ส่งเรื่องเคลมให้แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่า จะอนุมัติการเคลมให้เมื่อไร นั้น
ล่าสุด ผู้เสียหายได้โพสต์ คลิป ร้องเรียนถึงความคืบหน้าที่ล่าช้าของบริษัทประกันของทางคู่กรณี ว่า "คู่กรณีเดินเรื่องเคลม ประกันบอกรอเคลมภายใน 7 วัน ผ่านไป 2 สัปดาห์ โทรถามบอกหาเมลล์แจ้งเคลมไม่เจอ ถ้าหาไม่เจอจริงทำไมไม่โทรกลับมาถามผู้เคลมหรือผู้เสียหาย ปล่อยปละละเลย เหมือนเราไม่ได้เดือดร้อน เสียเวลาไปฟรี 2 สัปดาห์ ตอนนี้เข้าสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ก็เงียบ มีแต่เราผู้เสียหายกับคู่กรณีที่โทรไปถามไปจี้ประกัน
บริษัทประกันก็มีชื่อเสียงพอสมควร แต่ทำไมถึงบริการได้แย่ขนาดนี้ โทรถามก็มีแต่พูดว่า ขออภัยในความล่าช้าค่ะ โทรไปเถอะ รอสายที ไม่ 20 ก็ 30 นาที หมดค่าโทรเป็นร้อย พนักงานคอลเซ็นเตอร์ทั้งบริษัทมีคนเดียวหรือไง"
ตอนนี้ทำการส่งเรื่องร้องเรียนที่ คปภ. ก็ได้นัดไกล่เกลี่ยวันที่ 30 พ.ย. นี้ แต่ไม่รู้ว่าประกันจะมาหรือไม่ และได้มีการไลน์คุยกับคู่กรณีแล้วว่า เรารอไม่ไหวแล้ว อยากให้เขาช่วยรับผิดชอบทำประตูรั้ว กำแพงบ้านให้เราก่อนได้ไหม เราเดือดร้อนมากๆ แต่ทางคู่กรณียังขอคุยกับครอบครัวดูก่อนว่าจะยังไง
”ถ้าให้รออยู่แบบนี้คงอีกเป็นเดือนแน่ๆ จะให้อาศัยอยู่บ้านแบบนี้ มันคงไม่ได้ บ้านไม่มีประตูรั้ว กำแพง มันไม่มีความปลอดภัย แล้วที่บ้านก็มีทั้งเด็ก คนแก่ และสัตว์เลี้ยง(หมา) ไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ ต้องมีคนเฝ้าบ้าน และยิ่งใกล้หยุดยาวปีใหม่ ต้องกลับบ้านต่างจังหวัด ถ้าเปนแบบนี้คงไม่ได้กลับ ทำให้เราเสียเวลาเสียโอกาสหลายๆอย่างมากๆ“
