สนามข่าว 7 สี - 1 ใน 2 เป้าหมายที่ DSI นำหมายศาลไปเข้าตรวจค้นเมื่อวาน เป็นห้างจำหน่ายสินค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ อยู่ที่ย่านพัฒนาการ เป้าหมายเป็นการแสวงหาพยานหลักฐาน ว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับบริษัทฯ ที่ DSI ออกหมายจับ และแย้มว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีการออกหมายจับเพิ่มตัวการและนายทุน ไม่น้อยกว่า 10 คนด้วย
โดยเป้าหมายที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI นำหมายศาลไปขอตรวจค้น เป็นสำนักงานใหญ่ห้างค้าส่งรายใหญ่ระดับประเทศแห่งหนึ่ง ย่านถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร หลังพบความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ DSI เคยออกหมายจับ ว่ามีการทำธุรกิจกันในช่วงเวลาที่พบพยานหลักฐาน ซึ่งทางห้างฯ ก็ให้ความร่วมมือนำตรวจค้นเป็นอย่างดี ก่อนที่ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดี DSI และนางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการสื่อสารองค์กรของทางห้างฯ จะออกมาแถลงชี้แจงเรื่องนี้ด้วยกัน
โดย นางศิริพร ยอมรับว่า ห้างฯ เคยทำธุรกิจสั่งซื้ออาหารทะเลนำเข้ากับบริษัทฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหามานานกว่า 10 ปี กระทั่งมีช่วงหนึ่งที่ตลาดต้องการเครื่องในหมูจำนวนมาก แล้วบริษัทดังกล่าวเสนอขายเครื่องในหมูนำเข้า ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว เห็นว่ารัฐบาลในขณะนั้นอนุญาตให้นำเข้าได้แบบมีเงื่อนไขในบางช่วงเวลา ประกอบกับบริษัทดังกล่าวมีเอกสารใบรับรองการเคลื่อนย้ายเนื้อหมูจากกรมปศุสัตว์ มีแบบแผนการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน เชื่อว่าเป็นเนื้อหมูที่นำเข้าโดยถูกกฎหมาย จึงติดต่อซื้อขายกัน
กระทั่งเมื่อกลางปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ ทางห้างฯ ตรวจพบว่าเนื้อหมูและตับหมูที่นำมาขาย มีปัญหาคุณภาพไม่ผ่านมาตรฐาน จึงตักเตือน และขอให้บริษัทชี้แจงสาเหตุของปัญหา แต่ไม่สามารถชี้แจงได้ จึงยกเลิกการสั่งซื้อนับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ส่วนการตรวจสอบเอกสารในเบื้องต้น อธิบดี DSI บอกว่า จากการตรวจค้นก่อนหน้านี้ DSI พบว่าบริษัทที่ตกเป็นผู้ต้องหามีการสำแดงข้อมูลเท็จ เพื่อยื่นขอนำเข้าเนื้อหมูกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ออกใบรับรองต่าง ๆ ให้ดูเหมือนนำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย และเมื่อมาตรวจค้นห้างฯ ครั้งนี้ ก็พบมีการซื้อขายเครื่องในหมูกับบริษัทดังกล่าวเกือบ 120 รายการ มูลค่าประมาณ 390 ล้านบาท หลังจากนี้จะให้เวลาทางห้างฯ ได้รวบรวมเอกสารทั้งหมดให้ DSI ตรวจสอบเพิ่ม คาดว่าจะเรียบร้อยใน 1 เดือน
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีขีดเส้นตายภายในสัปดาห์นี้ ให้ดำเนินการเอาผิดกับตัวการใหญ่ให้ได้ บอกใบ้ว่าเร็ว ๆ นี้ จะออกหมายจับกลุ่มนายทุน และตัวการเพิ่ม ไม่น้อยกว่า 10 คน ในจำนวนนี้จะมีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วย และยอมรับว่ายังเป็นเรื่องเร็วเกินไป ที่ตอนนี้จะด่วนสรุปว่าต้องมีการดำเนินคดีกับห้างฯ ดังกล่าวหรือไม่