ห้องข่าวภาคเที่ยง - คำสั่งแบบฟ้าผ่า เปลี่ยนตัว "อธิบดี DSI" ขณะกำลังทำคดีเนื้อหมูเถื่อนแบบเข้มข้น ที่ออกมาเมื่อวาน จนถึงตอนนี้หลายคนก็ยังสงสัย ว่าสรุปแล้วเป็นเพราะสาเหตุใด จะเป็นไปตามที่ กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า เพราะตำแหน่ง "รองปลัด" สำคัญขาดไม่ได้ อย่างนั้นหรือไม่
สัญญาณแรกคงหนีไม่พ้นปฏิกิริยาของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ที่ตำหนิการทำงานของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ว่าทำไมถึงจับกุมตัวการใหญ่ไม่ได้เสียที ก่อนที่อีก 1 สัปดาห์ต่อมา จะพูดถึงเรื่องการขีดเส้นตายว่าสัปดาห์นี้ควรจะได้อะไรบ้างแล้ว
เราถึงได้เห็นภาพการทำคดีนี้อย่างโฉ่งฉ่าง ไม่ว่าจะเป็นการพาสื่อไปบุกค้นห้องเย็นในจังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้เอกสารชี้ว่าบริษัทที่นำเข้าเนื้อหมู ส่งขายให้กับห้างค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ ที่นำไปสู่การเข้าตรวจค้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมถึงการแถลงข่าวสรุปผลความคืบหน้าทางคดี ว่าได้ส่งสำนวนคดีให้ ป.ป.ช. ไปพิจารณาแล้ว 1 สำนวน และเร็ว ๆ นี้ จะมีการออกหมายจับเจ้าหน้าที่รัฐอีกไม่น้อยกว่า 10 คน ที่พบเกี่ยวข้องกับการทุจริต
จนกระทั่งเมื่อวาน เริ่มมีข่าวลือออกมา ว่าจะมีการเปลี่ยนตำแหน่ง อธิบดี DSI โดยเสนอให้ พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล ไปดำรงตำแหน่ง และให้ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน พูดง่าย ๆ คือ สลับตำแหน่งกัน ก่อนที่ผลจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะออกมา สรุปว่าให้ พันตำรวจตรี สุริยา ย้ายไปเป็นรองปลัดฯ แทนที่ พันตำรวจโท ประวุธ ที่ต้องย้ายไปดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
จากนั้นช่วงใกล้ ๆ เที่ยงเมื่อวาน เพจเฟซบุ๊กของ DSI โพสต์ข้อความว่า "วิถีราชการ" พร้อมกับภาพของอธิบดี DSI ในภาพมีข้อความเขียนไว้ว่า "ทำใจอยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่มานั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดที่นี่ ว่าต้องถึงวันนี้ แต่ผมเลือกทางเดินและวิถีผมเองตั้งแต่ต้น ไม่เสียใจ ทำเต็มที่แล้ว" พร้อมกับลงชื่อ อธิบดี DSI ยิ่งทำให้สังคมพากันสับสนว่า สรุปแล้วคำสั่งย้ายนี้เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่
เลยมีกระแสข่าวตั้งข้อสงสัยกันมากมาย เช่นว่า ก. นายกไม่พอใจ อธิบดี DSI ทำงานไม่ทันใจ ส่งการบ้านไม่ทันเส้นตาย เลยสั่งย้าย, ข. อธิบดี DSI ทำคดีหมูเถื่อนจนไปชนตอ เจอนายทุนใหญ่กดดันคนในรัฐบาล กลัวจะกระทบกับมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ เพราะมีข่าวว่า DSI เข้าค้นไปวันเดียว หุ้นที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ติดลบไป 4%, ค. จริง ๆ อธิบดี DSI รู้ตัวอยู่แล้ว ว่าจะถูกย้ายตำแหน่ง เลยตัดสินใจบุกค้นธุรกิจใหญ่ทิ้งทวนผลงานชิ้นสุดท้าย หรือ ง. ถูกทุกข้อ
ผู้สื่อข่าวนำเอาข้อสงสัยต่าง ๆ ไปถาม นายกรัฐมนตรี ที่ไปประชุม ก.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวานนี้ นายเศรษฐา ตอบสั้น ๆ ระหว่างกำลังจะเดินทางกลับว่า รัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมา ตามความเหมาะสม พอผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า "การโยกย้ายเกี่ยวข้องกับการเข้าตรวจหมูเถื่อนหรือเปล่า" ถามยังไม่ทันจบ ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีโบกมือ เดินพ้นประตู ขึ้นรถเดินทางกลับเรียบร้อย
ตอบยาวขึ้นมาหน่อย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันคำสั่งย้ายที่ออกมา ไม่ใช่คำสั่ง "เด้ง" เป็นการบริหารราชการภายในของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการทำคดีหมูเถื่อน เพราะที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีอยู่แล้ว
ก่อนที่ กระทรวงยุติธรรม จะส่งข่าวประชาสัมพันธ์ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้เหตุผลที่เสนอชื่อ พันตำรวจตรี สุริยา ไปเป็น "รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" เพราะ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรัตน์ ถูกย้ายไปเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. จึงจำเป็นต้องเสนอย้าย พันตำรวจโท ประวุธ ไปเป็นอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทำให้ตำแหน่ง "รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" ว่างลง ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงฯ และ พันตำรวจตรี สุริยา ก็เคยผ่านมาแล้วทั้งงานอธิบดี และงานที่ปรึกษาหลายหน่วยงาน เป็นคนมีความรู้ความสามารถ จึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ยืนยันการโยกย้ายดังกล่าว ไม่กระทบต่อการดำเนินคดีที่ DSI ทำอยู่ และย้ำไม่มีการกลั่นแกล้ง หรือมีอคติใด ๆ หรือเกี่ยวข้องกับคดีที่สังคมตั้งข้อสงสัย
ซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งอธิบดี DSI เหตุเพราะไปเกี่ยวข้องกับคดีใดคดีหนึ่ง ในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อย่าง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ถูกลงโทษไล่ออก เพราะมีข้อสงสัยเรื่องความร่ำรวยผิดปกติ หรืออย่าง นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ที่ตอนนั้นมีกระแสข่าวความเคลือบแคลงว่า พัวพันกับคดีทุนจีนสีเทา ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาบอกเองว่าขอย้ายตัวเองออก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ทีมข่าวไปสังเกตการณ์ดูที่กระทรวงยุติธรรม ยังไม่พบมีความเคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษ จากการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ทราบว่า วันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีภารกิจทำงานอยู่ภายในกระทรวงฯ ไม่ได้ออกไปไหน จึงเป็นไปได้ว่าอาจมีการประชุมเพื่อหารืองานบริหารกันภายใน เนื่องจากต้องมีการแบ่งหน้าที่กัน ให้รองปลัดคนใหม่เข้าไปดูแลรับผิดชอบ