ประมงเถื่อน กร่าง! ล้อมขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นฝั่ง หลังเพื่อนร่วมขบวนการถูกจับ เพราะใช้เรือผิดกฎหมาย และทำประมงในพื้นที่ห้ามทำ ที่อ่าวปากนคร-ปากพนัง
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (7 ธ.ค.66 ) ขณะที่นายสมพร ยีสมัน หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล พร้อมเจ้าหน้าที่ประมงทะเลรวม 6 นาย เข้าปฏิบัติการไล่ล่าจับกุมขบวนการประมงผิดกฎหมาย หรือ ที่เรียกว่าประมงเถื่อนกลางอ่าวปากนคร - ปากพนัง รอยต่อระหว่างตำบลปากนคร อำเภอเมือง และตำบลปากพนัง ฝั่งตะวันตก อำเภอปากพนัง นครศรีธรรมราช โดยเรือประมงชนิดอวนรุนหัว ซึ่งเป็นเครื่องมือผิดกฎหมายและต้องห้ามทำประมงบริเวณชายฝั่ง กำลังทำประมง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้เร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้พยายามไล่ติดตามจับกุมและบังคับให้หยุดเรือ ก่อนที่จะควบคุมไว้ได้ในเวลาต่อมา
โดยเรือดังกล่าว บนพื้นเรือเต็มไปด้วยลูกปลา และสัตว์น้ำวัยอ่อนที่ไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ควบคุมและลูกเรือไว้ได้ 2 ราย และเมื่อเจ้าหน้าที่จำนำเรือพร้อมผู้ต้องหา เข้าทำการบันทึกจับกุมที่สถานีหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปากพนัง ปรากฎว่า ได้มีกลุ่มเรืออวนรุน ซึ่งเป็นขบวนการเดียวกันได้นำเรือเข้ามาขวางปิดล้อมเจ้าหน้าที่ ไม่ให้นำตัวผู้ต้องและของกลางเข้าฝั่ง แต่เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความแข็งกร้าว ยืนยัน ปฏิบัติการตามกฎหมาย หากเข้าขัดขวางจะมีความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติหน้าที่ จนในที่สุดกลุ่มเรืออวนรุนหัวที่เหลือได้ล่าถอย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางกลับเข้าฝั่งได้
นายสมพร ยีสมัน หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล ระบุว่าเจ้าหน้าที่มีจำนวน 6 นาย มีเรือตรวจการณ์เพียง 1 ลำ แต่เรือประมงผิดกฎหมายมีหลายสิบลำกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะปฏิบัติการ และกลุ่มผู้กระทำความผิดมีปฏิริยาแข็งกร้าวพร้อมขัดขวางต่อสู้เจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เมื่อปฏิบัติการสามารถจับได้เพียง 1 ลำ ส่วนที่เหลือกำลังติดตามไม่เพียงพอ และเมื่อเกิดการปิดล้อมเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระวังขึ้นอีกมาก
สำหรับสถานการณ์ประมงผิดกฎหมายในอ่าวนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะพื้นที่ย่อยอ่าวปากนคร อ่าวปากพนัง อ่าวปากพญา เต็มไปด้วยเรือประมงเครื่องมือทำลายล้าง เจ้าหน้าที่มีเพียง 6 นายมีอุปสรรคในการปฏิบัติการอย่างมากทั้งทรัพยากรการปฏิบัติงาน กำลังคน และยังมีความพยายามกดดันจากอิทธิพลของนักการเมืองบางราย และการไม่ให้ความร่วมมือการปฏิบัติงานจากอีกหลายหน่วยงาน ทำให้ประมงผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยขณะนี้มีการรวบรวมข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ พบว่ามีมากกว่า 2,500 ลำ ทั้งเรือคราดหอยเถื่อน เรืออวนรุน ซึ่งเป็นเครื่องมือทำลายล้างห้ามทำการประมงชายฝั่งโดยเด็ดขาด