นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต คนไทยเป็นกันเยอะ 2 โรคนี้มีความต่าง

นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต คนไทยเป็นกันเยอะ 2 โรคนี้มีความต่าง

View icon 127
วันที่ 13 ธ.ค. 2566 | 10.58 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต คนไทยเป็นกันเยอะ หมอเจดแนะปรับพฤติกรรมการกิน นอกจากน้ำตาลแล้ว มันเทศ ถั่วเหลือง กะหล่ำปลี ปวยเล้ง กินมากเกินไปเกิดนิ่วในไตได้ กินของทอด ไขมันมากๆ เกิดนิ่วในถุงน้ำดี

วันนี้ (13 ธ.ค.66) หมอเจด หรือ นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงโรคนิ่ว โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวสาวกินชานมไข่มุกแล้วเป็นนิ่วที่ถุงน้ำดี ล่าสุดมีข่าวว่ากินน้ำหวานแล้วเป็นนิ่วที่ไต โดยปกตินิ่วที่พบได้บ่อยก็จะมี “นิ่วในไต” และ “นิ่วในถุงน้ำดี” โดยทั้งคู่มีความต่างกัน

นิ่วในไตเกิดจาก การตกตะกอนของสารออกซาเลต แคลเซียม ซึ่งขับมาที่ปัสสาวะของเรา ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการกิน  วิตามิน C แคลเซียม น้ำตาล โปรตีนจากสัตว์ และโซเดียม หรือพวกอาหารที่สารออกซาเลต เช่น มันเทศ ถั่วเหลือง กะหล่ำปลี ปวยเล้ง  มากจนเกินไปก็ทำให้เกิดนิ่วในไตได้  นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องของกรรมพันธุ์ รวมไปถึงการกลั้นฉี่ กินน้ำน้อยด้วย ซึ่งในข่าวก็ได้ระบุไว้ว่า “สาเหตุที่เคสในข่าวเป็นนิ่วในไตก็เกิดจากการกินน้ำหวานแทนน้ำเปล่า”

ปกตินิ่วในไตจะไม่ค่อยแสดงอาการให้เห็น แต่เมื่อนิ่วอุดตันที่ทางเดินปัสสาวะ หรือติดเชื้อจะแสดงอาการ  โดยจะปวดหลังหรือปวดเอวมาก จะปวดเป็นพักๆ และจะมีปัสสาวะขัด มีเลือดปนออกทางปัสสาวะ แต่ต้องไปตรวจนะถึงจะรู้ว่ามันปนออกมา อาจจะมีอาเจียนร่วมด้วย

นิ่วในไตจะวินิจฉัยจากการเอกซเรย์ แต่ก็มีโอกาสที่จะมองเห็นไม่ชัด สามารถทำ CT-scan หรืออัลตราซาวด์เพื่อตรวจเพิ่มได้ ในส่วนของการรักษานิ่วในไตจะเริ่มต้นโดยการยิงสลายนิ่ว นิ่วจะเล็กลงและขับออกมาทางปัสสาวะในที่สุด แต่วิธีนี้อาจจะต้องทำหลายครั้ง ถ้าคนที่มีนิ่วในไตขนาดใหญ่ หรือมีอาการอื่นร่วม เช่น ไตบวม ไตวาย อาจจะต้องรักษาในการผ่าตัด

การกินน้ำหวานเยอะๆ ยังส่งผลให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้อีกด้วย โดยส่วนใหญ่นิ่วในถุงน้ำดีมักจะเกิดจาก “คอเลสเตอรอล”  โดยเฉพาะการกินพวกแป้ง น้ำตาล หรือของมันๆ พวกนี้จะเปลี่ยนเป็นไขมันในที่สุด โดยตับจะคอยทำหน้าที่ผลิตน้ำดีและจัดเก็บที่ถุงน้ำดี เพื่อคอยเอามาใช้สลายไขมัน  เมื่อเรารับไขมันมากขึ้น จะส่งผลให้น้ำดีทำลายไขมันไม่ทัน เกิดการตกตะกอนเป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้

อาการของนิ่วในถุงน้ำดีก็จะมี อาการปวดจุกแน่นท้อง ที่ลิ้นปี่และใต้ชายโครงฝั่งขวา โดยส่วใหญ่จะปวดแบบจุกแน่น หลังกินอาหารไปสักประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่จะใช้อัลตราซาวด์เพื่อวินิฉัยนิ่วในถุงน้ำดี วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดีส่วนใหญ่ แทบจะ100%ต้องผ่าตัดโดยส่องกล้อง ทั้งนี้ คน 4 แบบ ที่มักจะเจอนิ่วในถุงน้ำดี ได้แก่

Female ผู้หญิง ในสถิติจะพบว่าผู้หญิงเป็นนิ่วบ่อยกว่าผู้ชาย
Fatty หรือคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือ BMI เกินกว่าเกณฑ์
Forty หรือคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
Fertile หรือคนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ หรือคนเคยมีลูก เพราะจะมีเอสโตรเจนที่แปรปวน ซึงส่งผลต่อคอเลสเตอรอล

หมอเจด ระบุทิ้งท้ายว่า นิ่วในไตและนิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากพฤติกรรม มันป้องกันได้ เพราะฉะนั้นปรับด่วนก่อนที่สุขภาพเราจะมีปัญหา จะได้ไม่ได้มีเสี่ยงในการเกิดนิ่ว เลี่ยงพวกของหวาน ของทอด น้ำหวาน และดื่มน้ำเยอะๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ที่สำคัญสังเกตตัวเองกันด้วย ถ้ามีความผิดปกติรีบไปพบหมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง