ยึดทรัพย์ 140 ล้าน เครือข่ายกัปตันตุ้ยค้าไอซ์-คีตามีน ข้ามชาติ

ยึดทรัพย์ 140 ล้าน เครือข่ายกัปตันตุ้ยค้าไอซ์-คีตามีน ข้ามชาติ

View icon 599
วันที่ 26 ธ.ค. 2566 | 11.46 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เปิดยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร ยึดทรัพย์ 140 ล้าน เครือข่ายกัปตันตุ้ยค้าไอซ์-คีตามีน ข้ามชาติ ขนส่งทางเรือผ่านน่านน้ำสากล

วันนี้ (26 ธ.ค.66 ) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเพสติด (บช.ปส.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. /รอง ผอ.ศอ.ปส. ร่วมแถลงเปิดยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1) ตามแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย” ยึดทรัพย์สินเครือข่ายได้กว่า 140 ล้านบาท

ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร เป็นผลสืบเนื่องจากวันที่ 4 ธ.ค.66 ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสืบสวนและจับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดข้ามชาติขณะกำลังขนยาเสพติดจากรถยนต์กระบะตู้ทึบลงเรือที่บริเวณท่าเรือของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พบยาเสพติดเป็นไอซ์แพ็กอัดแน่นอยู่ในถุงผลไม้อบแห้งใส่ในกล่อง ๆ ละ 24 ถุง รวมจำนวน 52 กล่อง และคีตามีนบรรจุแพ็กอัดแน่นในถุงชาใส่ในกล่อง ๆ ละ 25 ถุง จำนวน 48 กล่อง รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 2,200 กก.

ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งบนเรือและบนท่าเรือ จำนวน 14 คน จากพฤติกรรมที่พบขณะจับกุมและการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว พบผู้ร่วมกระทำความผิดขณะเกิดเหตุ จำนวน 6 คน แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ 1)กลุ่มขับรถยนต์ลำเลียง 3 คน จับกุมได้ 2 คน หลบหนีไป 1 คน  2) กลุ่มการ์ดบนเรือ จำนวน 3 คน จับกุมได้ 2 คน หลบหนีไป 1 คน ในส่วนคนที่เหลืออีก 8 คนในที่เกิดเหตุนั้น จากการสอบสวนแล้วทำหน้าที่เป็นกัปตันเรือ ลูกเรือและช่างซ่อมเรือ มีหลักฐานการรับจ้างทำงานถูกต้อง ยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

วันที่ 7 ธ.ค.66 จากการขยายผล พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลอาญา และศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 3 คน ได้แก่ นายชานนท์ หัวหน้าทีมขับรถยนต์ลำเลียง นายศิริทรัพย์ ทีมการ์ดบนเรือ (ต่อมานายศิริทรัพย์ได้เข้ามามอบตัวแล้ว) และผู้สั่งการคือนายชาญชัย หรือกัปตันตุ้ย อดีตกัปตันเรือเรือที่มีชื่อเสียง ที่ผันตัวมาเปิดบริษัทเดินเรือ โดยเป็นผู้บริหารจัดการลำเลียงยาเสพติดทางเรือครั้งนี้ได้เช่าเรือศรีมงคลทรัพย์ไปส่งยาเสพติดในน่านน้ำสากลและพบว่าเคยมีการลักลอบลำเลียงมาแล้วถึง 7 ครั้ง ในช่วงเดือน มิ.ย.-ธ.ค.66 โดยอ้างว่ามี “พ่อเลี้ยง” เป็นคนสั่งการใหญ่ที่จะเป็นผู้สั่งการนายชาญชัย และทีมงานทั้งหมดนี้ และออกหมายจับนายอนุรุต ตัวการสำคัญอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกน้องของนายชาญชัย ทำหน้าที่ในการประสานงานกับหัวหน้าการ์ดบนเรือ รวมทั้งกับพ่อเลี้ยงและนายชาญชัย 

ต่อมาในห้วงวันที่ 9 - 20 ธ.ค.66 บก.ปส.3, บก.ขส.และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกันเปิด “ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร(Poseidon 1) ภายใต้แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย” เพื่อปิดล้อมตรวจค้นจับกุม รวบรวมพยานหลักฐานและยึดทรัพย์ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 คน มีเป้าหมายจุดปิดล้อมจำนวน 10 จุด ผลการปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 คนคือนายอนุรุต และยึดทรัพย์สินของนายชาญชัยกับพวกทั้งหมด มีทั้งที่ดินและกิจการของนายชาญชัย เช่น ร้านอาหาร กิจการเดินเรือ และกิจการอื่น ๆ เงินสด ทองแท่งและทองรูปพรรณ พระเครื่อง รถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 140 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. ระบุว่า ภายหลังการจับกุม ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้สืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มเครือข่ายนี้มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดปริมาณมากออกไปยังต่างประเทศโดยทางเรือมาแล้วหลายครั้ง ปลายทาง ได้แก่ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบลำเลียง โดยเครือข่ายนี้มีลักษณะการทำงานเป็นองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงานซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก  ขณะนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดกำลังสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่าย ทั้งระดับผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในประเทศและต่างประเทศต่อไป

ทางด้าน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้ยาเสพติดในภาคของปริมาณ ผู้เสพ ผู้ป่วย ในประเทศไทยถ้าไม่รีบจัดการจะถึงภาวะวิกฤต วันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้การจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด มารับฟังนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด รวมทั้งจะมีการเผาทำลายของกลางยาเสพติดครั้งใหญ่