แม่คาใจ “น้องโยโกะ”พริตตีสาวดับปริศนา ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย เพราะพบพิรุธหลายอย่าง อีกทั้งยังพบว่า ไซยาไนด์ที่พบ มีการใส่ถุงซิปแล้วเอาไปไว้ในตู้เซฟ ซึ่งมันผิดวิสัยของคนฆ่าตัวตาย ยืนยัน ยังไม่เผารลูกจนกว่าคดีจะคลี่คลาย
วันที่ 14 มกราคม 2567 คดีนี้สืบเนื่องจากน้องโยโกะ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 เวลา 00.48 น. เหตุเกิดที่ห้องพัก ชั้น 6 คอนโดฯแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย ห้องพักดังกล่าวเป็นห้องชุดติดกับสระว่ายน้ำ ล่าสุด วันที่ 13 มกราคม 2567 ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกผลชันสูตรพบว่า โยโกะ เสียชีวิตจากภาวะพิษไซยาไนด์ปริมาณ 1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร สมองบวมน้ำ ม้ามคั่งเลือด ตับอ่อนเน่า
ต่อมาผู้สื่อข่าว จึงเดินทางไปที่วัดบางบอน ศาลา1 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เพื่อไปสอบถามข้อมูลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ มารดาน้องโยโกะ ได้ให้ข้อมูลว่า แม่มั่นใจไม่ปักใจเชื่อว่าลูกจะทำร้ายตัวเอง โดยลูกอย่างร่าเริงแล้วคุยกันปกติ โดยก่อนหน้านี้อยากไปทานข้าวด้วยกันและยังวางแผน อนาคตด้วยกัน โดยก่อนหน้านี้ ยังมีการคุยโทรศัพท์กับน้องก่อนเสียชีวิต โดยยังคุยกันปกติ โดยตัวน้องไม่มีปัญหาอะไร เท่าที่ทราบ น้องนั้นมีแฟนอยู่หนึ่งคน แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร เพียงแต่ส่งรูปถ่ายให้แม่ดู ในส่วนที่แฟนของน้องมีครอบครัวอยู่แล้ว ตัวน้องไม่ทราบ ซึ่งแฟนของน้องได้เข้ามาในวันงาน แต่ไม่ได้ชี้แจงอะไรกับคุณแม่ ตัวแม่เองได้ถามไปหลายคำถาม แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้อง ส่วนคอนโดจะมีแฟนของน้องเข้าได้เพียงคนเดียว เพราะแฟนน้องเป็นคนที่รู้รหัสส่วนตัว
ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแม่เองก็ไม่พอใจ แล้วติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูล ในส่วนที่ว่าในกระเพาะของน้องมีแค่กาแฟและสารไซยาไนด์เพียงเท่านั้น ไม่มียา 10 เม็ด ตามที่กล่าวอ้าง โดยในจุดที่เกิดเหตุที่แม่ไปเจอร่างของน้องอยู่บนที่นอน ไม่มีรอยยับผ้าปูที่นอนปูอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งมันไม่ใช่ ถ้าเป็นคนที่กินยาฆ่าตัวตาย ต้องมีการดิ้นทุรนทุรายบ้าง ผ้าห่ม ต้องไม่เรียบร้อย สิ่งที่มุ่งหวังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คือ อยากให้สอบสวนแฟนหนุ่มของน้อง ซึ่งแม่เชื่อว่า แฟนของน้องต้องรู้อะไรมากกว่านี้ ในส่วนที่ตำรวจเรียกพบแม่ก็ไปให้ปากคำ โดยไซยาไนด์ที่พบทำไมถึงใส่ถุงซิปแล้วเอาไปไว้ในตู้เซฟ ซึ่งมันผิดวิสัยของคนฆ่าตัวตาย ในส่วนการฌาปนกิจร่างน้องคงต้องรอจนกว่าคดีจะคลี่คลาย ในส่วนของผลการชันสูตรของโรงพยาบาลตำรวจตอนนี้ยังไม่ได้
ด้าน นายสายธาร จันดา อายุ 51 ปี เป็น มัคนายก วัดบางบอน โดยตอนที่รับศพที่มาจากโรงพยาบาลจุฬา โดยสภาพร่างกายของน้องนั้นยังปกติอยู่ ทางวัดได้นำเข้าตู้แช่ โดยมีการสวดอภิธรรมไปแล้ว 7 คืน โดยในวันที่ 8 ได้มีการเคลื่อนย้ายร่างน้องมาไว้อีกศาลา โดย สังเกตพบว่าร่างของน้องจะออกสีแดงคล้ายเลือด ทั้งตัว โดยผิดกับวันแรกที่เอานำเข้าโรงเย็น โดยสภาพร่างกายนั้นปกติผิวร่างกายก็ปกติ โดยปกติแล้วสภาพศพที่อยู่ในโรงเย็น สภาพผิวพรรณจะคล่ำ ไม่ออกแดงแบบนี้ ซึ่งมันผิดปกติ ตนเองก็ไม่เคยเห็นตัวเองอยู่กับศพมาแบบนี้สองปีแล้ว เป็นเพราะเหตุการณ์นี้ทำให้คุณแม่สงสัย โดยหลังจากสวดศพไปแล้วเจ็ดวันก็มีเจ้าหน้าที่มานำศพไปชันสูตรอีกครั้ง