ครอบครัวยันผู้คุมเรือนจำเครียดเรื่องงาน ขอย้ายกลับทุ่งสงแต่ไม่เป็นผล

ครอบครัวยันผู้คุมเรือนจำเครียดเรื่องงาน ขอย้ายกลับทุ่งสงแต่ไม่เป็นผล

View icon 156
วันที่ 30 ม.ค. 2567 | 18.57 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ครอบครัวผู้คุมเรือนจำปากพนัง ที่จบชีวิตตัวเอง ยืนยัน ผู้เสียชีวิตเครียดเรื่องงาน ได้ทำงานไม่ถนัด ขอย้ายกลับที่เดิมอต่ไม่เป็นผล บวกกับโรคซึมเศร้า

ผู้คุมเรือนจำปากพนังฆ่าตัวตาย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (30 ม.ค.67) มีพิธีรดน้ำศพนายภักดี อายุ 47 ปี นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการเรือนจำอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้ก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมที่บ้านพัก

โดยมีนายสุรินทร์ จันทรเทพ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอปากพนังพร้อมกับบรรดาข้าราชการจากเรือนจำปากพนังและญาติพี่น้องมาร่วมพิธีรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก

ครอบครัวของนายภักดี ผู้เสียชีวิต เล่าว่า เรื่องที่ผู้เสียชีวิตเครียดเรื่องปัญหาครอบครัวเนื่องจากหย่าร้างกับภรรยานั้น ไม่เป็นความจริง หย่าไป 2 ปีเรื่องผ่านไปนานแล้ว ส่วน สาเหตุที่ทำไมผู้เสียชีวิต ขอย้ายกลับเรือนจำทุ่งสง ทั้งที่พึ่งย้ายมาที่เรือนจำปากพนังได้ 4 เดือน เพราะความเครียดเกี่ยวกับการทำงาน เพราะปกติอยู่ที่เรือนจำทุ่งสงนายภักดี จะทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของการดูแลผู้ต้องขัง และเป็นข้าราชการระดับซี 7 แล้ว กำลังจะสอบขึ้นซี 8 แต่เมื่อย้ายมาอยู่ที่เรือนจำปากพนังได้ให้ไปปฏิบัติหน้าที่งานหนังสือ งานเอกสาร ซึ่งนายภักดี ไม่มีความชำนาญ จึงค่อนข้างที่จะเครียดและกดดันกับการทำงานด้านเอกสารและด้านหนังสือที่ไม่ถนัด เคยทำการยื่นหนังขอย้ายกลับ 2 ครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ และคิดว่าคงยากที่จะได้ย้ายกลับ
จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียด ประกอบกับเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ด้วย รวมทั้งอาศัยอยู่บ้านคนเดียว จึงอาจทำให้คิดสั้นได้

ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่าได้เตรียมข้อมูลเรื่องนี้เสนอต่อสภาในประเด็นสวัสดิภาพและสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน จะพูดคุยและหาช่องทางในการเสนอเรื่องพิจารณาศึกษาทั้งระบบโดยเฉพาะเรื่องสวัสดิภาพและสวัสดิการ ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีภาระงานล้นอย่างมากจากสภาพเรือนจำทั่วประเทศที่รองรับนักโทษได้ 2 แสนคน แต่ปัจจุบันล้นไปถึง 3.7 แสนคน แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง