ชาวบ้านลุกฮือ อ้างสิทธิ์ฟอสซิลไดโนเสาร์ อ้านนายอำเภอน้ำพอง แจง อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ อาจถูกน้ำพัดมา หรือตายทับถมในพื้นที่คาบเกี่ยว 2 ตำบล
5 ก.พ. 67 จากกรณี นางสาว ศศอร ขันสุภา นักวิชาการทรัพยากรธรณีชำนาญการพิเศษ ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว หรือพิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์ ยืนยันว่าซากดึกดำบรรพ์ หรือซากฟอสซิล ที่พบในลำน้ำพอง พื้นที่บ้านโนนพะยอม ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เป็นของแท้อายุประมาณ 100 –110 ล้านปี เป็นชิ้นส่วนกระดูกสันหลัง และเศษกระดูก ส่วนสันหลัง ซี่โครง เป็นเศษไม่ได้เต็มชิ้น ในเบื้องต้นคล้ายไดโนเสาร์จำพวกกินสัตว์ แต่จะต้องมีการศึกษาวิจัยยืนยันอีกครั้ง โดยพื้นที่แผ่นดินอีสานเป็นพื้นที่ดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ตั้งแต่ 100 – 200 กว่าล้านปีที่ผ่านมา และทางน้ำนี้เป็นทางน้ำที่มีการสะสมมาตามธรรมชาติเมื่อหลายร้อยล้านปี
นายกรชวาลวิชญ์ ชัยพีรวัส นายอำเภอน้ำพอง ลงพื้นที่พร้อมคณะ เพื่อตรวจสอบบริเวณที่พบฟอสซิลไดโนเสาร์ซึ่งยังไม่ทราบสายพันธุ์ กั้นบริเวณเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าไปขุดคุ้ย ทำลายสถานที่ดังกล่าว และรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นทราบ รวมถึงประสานไปยังพิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งยืนยันว่าซากดึกดำบรรพ์ หรือซากฟอสซิลที่พบ เป็นของแท้ เบื้องต้นเทศบาลม่วงหวานได้นำฟอสซิลขนาดใหญ่ที่อยู่ในหินไปเก็บไว้ ต้องรอการตรวจสอบว่า ฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ดังกล่าว ทับถมเป็นเวลานานหลายร้อยล้านปี หรือถูกกระแสน้ำพัดมาจากที่อื่น ซึ่งได้เก็บชิ้นส่วนไปศึกษาเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านจากบ้านบึงกลาง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านโนนพะยอม เข้ามาทวงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของฟอสซิลไดโนเสาร์ เนื่องบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นของบ้านบึงกลาง ดังนั้นจะต้องเป็นของชาวบ้าน แต่ได้รับคำชี้แจงจากนายอำเภอ และนายกเทศบาลตำบลม่วงหวาน ว่า ฟอสซิลไดโนเสาร์ไม่ได้เป็นของผู้ใด เป็นของแผ่นดิน อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ใครก็ไม่สามารถครอบครองได้ เพราะถ้าหากว่ามีการทับถมกันอยู่ตรงนี้จริง พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในการดูแลของชลประทาน จะต้องมีการขออนุญาตขุดค้น พัฒนาให้เป็นสถานที่ศึกษาทางธารณีวิทยา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน สร้างความพอใจให้กับชาวบ้านก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
