โคราชระดมเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าครบุรี เชื่อมาจากฝีมือมนุษย์จุดไฟเผาป่ามะค่า หลังรอบแรกเพิ่งดับ ไม่ทันข้ามวัน ไฟไหม้ซ้ำอีก เสียหายกว่า 600 ไร่
ไฟป่าครบุรี วานนี้(12 ก.พ.2567) เมื่อเวลา 15.30 น. นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี พร้อมด้วย นายพัฒนพงษ์ โพธิ์ภักดี หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ นม. 6 (ป่าครบุรี) นำกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครป้องกันควบคุมไฟป่าบ้านมะค่า หนองโบสถ์ และโนนระเบียง กว่า 20 นาย เข้าทำดับไฟป่าที่เกิดลุกไหม้ขึ้นบริเวณด้านหลังวัดป่าเขามะค่า ท้ายหมู่บ้านมะค่า หมู่ที่ 4 ต.โคกกระชาย จ.นครราชสีมา และลุกลามเป็นวงกว้าง พร้อมประสานรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลโคกกระชาย และตำบลเฉลียงที่อยู่ข้างเคียง 2 คัน เพื่อนำน้ำมาฉีดสกัดเพลิง ควบคู่ไปกับการทำแนวกันไฟบริเวณตีนเขาที่อยู่ติดกับวัดป่าเขามะค่า ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและไม่ลุกลามลงมาถึงสิ่งปลูกสร้างภายในวัดได้อย่างเฉียดฉิว เพราะไฟอยู่ห่างจากวัดเพียงไม่ไกล ขณะเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งก็ได้เร่งทำแนวกันไฟโดยรอบพื้นที่อีกชั้น เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ และวางกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครคอยเฝ้าระวังตลอดคืนนี้ เพราะยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน และจะได้วางแผนในการเข้าดับไฟป่าให้ดับสนิทในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง
นายพัฒนพงษ์ โพธิ์ภักดี หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.6 (ป่าครบุรี) ระบุว่า เขามะค่านั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี และไฟป่าครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นห่างจากจุดนี้ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 9 ก.พ.67 ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าไปกว่า 500 ไร่ และเพิ่งดับสนิทเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนจะมาเกิดไฟป่าซ้ำอีกครั้งที่จุดดังกล่าวช่วงบ่ายวันนี้ ประเมินว่าน่าจะมีพื้นที่ป่าเสียหายเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 100 ไร่ ซึ่งสาเหตุคงไม่พ้นเกิดจากฝีมือมนุษย์ ที่อาจจะจุดไฟเผาป่าเพื่อหาของป่าหรือหวังผลบางอย่าง โดยเจ้าหน้าที่จะได้พยายามสืบหาตัวมือดีกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับป่าโคกมะค่า ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เป็นป่าสงวนแห่งชาติอยู่ติดกับเขื่อนลำแชะ ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำมูลและต่อจากเขื่อนลำแชะจะเป็นเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยป่าโคกมะค่ามักจะมีชาวบ้านเข้าไปหาของป่าและมีนายพรานเข้าไปล่าสัตว์ป่าเป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าการเกิดเพลิงไหม้ป่าโคกมะค่าทั้งสองครั้งซึ่งสร้างความเสียหายแก่ทรัพยากรของชาติเป็นบริเวณกว้างไม่น้อยกว่า 600 ไร่ และเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์อย่างแน่นอน
