เศรษฐา เล็ง จ.นครพนม เมืองหลักเศรษฐกิจท่องเที่ยวและส่งออก

View icon 76
วันที่ 18 ก.พ. 2567 | 07.01 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - นายกรัฐมนตรี เดินหน้าขยับพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย - สปป.ลาว กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการส่งออกตามแนวชายแดนที่มีประสิทธิภาพ เน้นยกระดับเมืองรองอย่างนครพนม เป็นเมืองหลัก ด้วยศักยภาพที่มี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม ผ่านบ้านลุงโฮ

ภารกิจแรกของการตรวจราชการนายกรัฐมนตรี 3 จังหวัดภาคอีสาน นครพนม สกลนคร และอุดรธานี ที่เตรียมยกระดับจังหวัดนครพนม ผ่านการท่องเที่ยวที่มีหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม อนุสรณ์โฮจิมินห์ เพื่อเปิดการท่องเที่ยวของคนเวียดนามให้เพิ่มมากขึ้นจากจุดเช็กอินเดิม 90,000 คน ให้เป็นกว่า 1 แสนคน ที่บรรยากาศการต้อนรับด้วยการใส่ชุดประจำชาติคนเวียดนาม หรือ ชุดอ๋าว หญ่าย โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเคารพอนุสรณ์ นายโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีประเทศเวียดนาม ก่อนร่วมถ่ายภาพกับคนไทยเชื้อสายเวียดนาม และกล่าวทักทายว่า "ซินจ่าว" ซึ่งเป็นภาษาเวียดนาม แปลว่า สวัสดี

จากนั้นนายกรัฐมนตรี เริ่มประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และจะยกระดับให้สนามบินนครพนม เป็นสนามบินนานาชาติได้ รวมไปถึงการส่งสินค้าออกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านพื้นที่ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service ที่มองว่าจังหวัดนครพนม มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นเมืองหลักการค้าและการส่งออกได้ในอนาคต รัฐบาลพร้อมลงทุนเพื่อเดินหน้าพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษที่มีกว่า 1,700 ไร่ ที่ทุกฝ่ายต้องเริ่มหารือเพื่อบูรณาการ

และก่อนออกเดินทางไปจังหวัดที่ 2 ของการตรวจราชการ ได้ร่วมงานนมัสการพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประจำปี 2567 ร่วมสนทนาธรรม สมเด็จพระมหาธีราจารย์ พร้อมยกนครพนม เป็น 1 ใน 10 จังหวัดนำร่อง กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมสวมชุดถิ่น "ศรีโคตรบูรณ์" ของจังหวัดด้วย

เมื่อมาถึงจังหวัดสกลนคร เพื่อเตรียมลงตรวจราชการในวันนี้ (18 ก.พ.) แต่มาพบกับประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ที่ตลาดเทศบาลนครสกลนคร พร้อมนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองคล้องคอ พร้อมกับผูกผ้าขาวม้าคาดเอว ขออนุญาตมัดแน่น ๆ ให้อยู่จังหวัดสกลนคร ไม่ให้ไปไหน และนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจและซักถามถึงไข่มดแดง และชนิดผักต่าง ๆ ที่มีในพื้นที่ และก่อนเดินทางขึ้นรถตู้เพื่อกลับที่พัก มีประชาชนได้ตะโกนบอกนายกรัฐมนตรีว่า "ดิจิทัลวอลเล็ต ยังรออยู่นะ"

และช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีพร้อมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เตรียมหารือและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนการทำประมงน้ำจืด และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่หนองหาน ก่อนหารือพัฒนาให้จังหวัดสกลนครเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา ณ วัดถ้ำผาแด่น

ชมการเรียนรู้ผ้าย้อมคราม ที่จะพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนเพื่อเป็นรายได้และต่อยอดเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัด รวมไปถึงการพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งนวัตกรรมการเกษตร พร้อมจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและเกษตรกร