ข่าวภาคค่ำ - พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เกิดปัญหาขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีการปรากฏภาพหมุดของ ส.ป.ก.4-01 เข้าปักรุกล้ำพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บอกว่า ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน คุณชานนท์ ขุมทรัพย์ ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ มีรายละเอียดในคอลัมน์หมายเลข 7
หลักหมุดของ ส.ป.ก. 4-01 ที่ออกให้กับชาวบ้าน 3 คน ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2537 ซึ่งระบุให้มีการสำรวจรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิ์เฉพาะในพื้นที่ ที่มีราษฎรถือครองทำกิน ในวันนี้กลายเป็นประเด็นข้อพิพาท เหตุเพราะรุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
จากปมปัญหาดังกล่าว คอลัมน์หมายเลข 7 จึงเดินทางมายังพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง โดยระหว่างการสำรวจ เราพบกับร่องรอยของสัตว์ป่า และแหล่งน้ำธรรมชาติ 2 จุด
แม้ข้อมูลจากชาวบ้าน จะยืนยันถึงสิทธิ์ในการยึดครองทำกินมาก่อน แต่เมื่อสอบถามถึงชื่อของเจ้าของเอกสารสิทธิ์ 3 ราย ที่ครอบครองจุดที่เป็นข้อพิพาท น่าสนใจว่าไม่มีใครรู้จักรายชื่อทั้ง 3 คนนี้ และยังบอกอีกว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่ามาโดยตลอด
แม้ยังไม่มีข้อยุติว่าการปักหมุด ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่เขาใหญ่ ใครถูก ใครผิด ระหว่าง สปก.กับอุทยานฯ แต่มีคำสั่งย้ายด่วน ส.ป.ก.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา 6 คน ไปประจำการที่สำนักงานส่วนกลาง เพื่อเปิดทางการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
ขณะที่เจ้ากระทรวงของทั้ง 2 หน่วยงาน ซึ่งอยู่พรรคพลังประชารัฐ เหมือนกัน เคลียร์ใจเรียบร้อย ให้แผนที่ทหารหรือวันแมป เป็นเครื่องมือตัดสิน ใครเป็นเจ้าของพื้นที่
แต่คำถามใหญ่ที่ยังรอคำตอบคือ การปักหมุดใหมของ ส.ป.ก. ในพื้นที่เขาใหญ่ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลัง ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายแปลง ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดิน โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากกรมอุทยานฯ หนำซ้ำยังปรากฏข้อมูลการขึ้นรูปแปลง ส.ป.ก. มากถึง 2,900 ไร่ ในพื้นที่ที่ที่ดินมีราคา เป็นสัญญาณบอกเหตุถึงการรุกล้ำเข้าพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มรดกโลกของประเทศไทยหรือไม่ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือมีพื้นที่อุทยานที่ใดอีกหรือไม่ ที่เกิดปัญหาแบบนี้ ซึ่ง ส.ป.ก. จะต้องเป็นผู้ตอบคำถามนี้ เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับคนไทยทุกคน
