ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องการครอบครองบ้านปรปักษ์ อาจไม่จบแค่เรื่องคดีฟ้องร้องกันไปมาอย่างเดียวแล้ว หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งข้อมูล ว่าคู่กรณีของเจ้าของบ้านตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง คาดว่าเกิดจากความเครียดในเรื่องนี้
เป็นบรรยากาศที่ สน.คันนายาว ระหว่างรอผลการเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงและเขตคันนายาว ซึ่งเป็นบ้านของคู่กรณีคดีครอบครองบ้านปรปักษ์ ตามที่ได้รับแจ้งจากสามีของผู้เสียชีวิตเมื่อตอนประมาณ 07.30 น. ว่าพบภรรยาตนเองใช้ผ้าขนหนูผูกคอกับประตูห้องน้ำ ที่อยู่บริเวณชั้นที่ 2 ของบ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะพยายามทำการปฐมพยาบาลแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ยืนยันว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงได้ประสานต่อไปยัง ตำรวจ สน.คันนายาว เรียกเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ โดยมีข้อมูลตามรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้โทรศัพท์ไปพูดคุยเรื่องคดีกับตำรวจ บอกว่าเครียดมากเรื่องคดีครอบครองปรปักษ์
ซึ่งคดีครอบครองปรปักษ์ที่ว่านี้ เริ่มเป็นข่าวครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังผู้เสียหายพบว่าบ้านที่ปล่อยทิ้งร้างไว้นานกว่า 30 ปี ที่ย่านรามอินทรา ถูกเพื่อนบ้านยึดไปทำร้านขายอาหาร จนมีการแจ้งความ 3 ข้อหา ไว้กับตำรวจ สน.โคกคราม
แม้ช่วงหนึ่งคู่กรณีจะยอมถอย ขนย้ายข้าวของออกไป แต่ก็กลับไปยื่นฟ้องแพ่ง อ้างสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์บ้านหลังดังกล่าวอีก และยังนำกุญแจไปล็อกประตูบ้านไว้ จนเจ้าของบ้านต้องบุกยึดเอาบ้านคืน และเมื่อ 10 วันที่แล้ว ตำรวจเพิ่งนำตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้รวม 5 คน ไปส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ กระทั่งวันนี้เกิดเหตุสลดขึ้น
ขณะที่ ทนายเดชา ซึ่งเป็นทนายความของผู้เสียหาย กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ พร้อมแจ้งข่าวไปยัง "อากู๋" ที่เป็นผู้ซื้อบ้านทราบแล้ว เบื้องต้นได้ขออโหสิกรรมให้ พร้อมยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น