เช้านี้ที่หมอชิต - ทนายเดชา และ หลานชายอากู๋ ตั้งโต๊ะแถลงแสดงความเสียใจ และขออโหสิกรรมให้ 1 ในผู้ต้องหาคดีครอบครองปรปักษ์ หลังจบชีวิตตัวเองในบ้าน ยืนยันไม่ได้ใช้สื่อกดดันตามที่ทนายคู่กรณีกล่าวหา
ย้อนไปช่วง 07.00 น.ของเมื่อวาน ตำรวจ สน.โคกคราม เข้าตรวจสอบบ้านพักย่านรามอินทรา หลังได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต พบศพ นางสาวภานุมาศ หรือ นุ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ ผูกคอตัวเองในห้องน้ำ โดยผู้พบศพคนแรก คือ สามี พยายามซีพีอาร์ยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล
ญาติผู้เสียชีวิต บอกว่า ไม่ทราบผู้เสียชีวิตเครียดหรือกดดัน หรือป่วยมีโรคส่วนตัวหรือไม่ เพราะไม่เคยมาปรึกษา แต่เมื่อไม่กี่วัน ได้พูดให้กำลังใจผู้เสียชีวิตว่า มีปัญหาอะไรก็ค่อย ๆ แก้กันไป คาดว่าอาจจะเครียดเรื่องคดี เลยเป็นสาเหตุให้จบชีวิต
ส่วนบ้านหลังเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตพักอยู่กับสามี นิสัยเป็นคนชอบทำบุญเข้าวัด ปฏิบัติธรรมทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ด้าน ทนายกุ้ง ทนายความของอากู๋ ชี้แจงว่า คดีครอบครองปรปักษ์ คือ คุณศรีพรรณ ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นผู้ต้องหาคดีบุกรุก ไม่เกี่ยวข้องกับคดีครอบครองปรปักษ์ และในทางคดีแพ่งที่ยื่นฟ้องไป ได้ฟ้อง คุณศรีพรรณ เพียงคนเดียว
ซึ่งในคดีบุกรุกอยู่ในชั้นการพิจารณาสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ เบื้องต้นมีกำหนดจะสั่งฟ้องในวันที่ 6 มีนาคมนี้ แต่หลังจากหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต ทางพนักงานอัยการจะสั่งไม่ฟ้องกับผู้เสียชีวิตรายนี้ และจำหน่ายออกจากคดีไป ในส่วนนี้เป็นคดีในภาคแรก
ต่อมาก็เกิดเรื่องราวภาค 2 ขึ้น เมื่อ 1 ในผู้ถูกกล่าวหา คุณศรีพรรณ ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ออกคำสั่งครอบครองปรปักษ์กับบ้านหลังดังกล่าว เมื่อทางฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงทราบเรื่อง จึงมอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นเรื่องคัดค้านและฟ้องขับไล่ พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง โดยคิดเป็นค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปี ซึ่งเป็นในส่วนของคดีแพ่ง
ในส่วนของคดีอาญาทางเจ้าของบ้านตัวจริงได้ไปแจ้งความข้อหาบุกรุกกับคู่กรณี คือ คุณศรีพรรณ รายนี้ด้วย ซึ่งผู้เสียชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีในภาค 2 แต่อย่างใด
ขณะที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อมกับ นายภคิน หรือ คุณซัน หลานอากู๋ เจ้าของบ้านตัวจริง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้
โดย คุณซัน เปิดเผยว่า รู้สึกช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงอากู๋ก็ตกใจมาก และขออโหสิกรรมให้ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทางครอบครัวยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเรื่องเกิดขึ้นเร็วมาก นอกจากนี้ คุณซัน ยังเผยข้อความสุดท้ายที่ผู้เสียชีวิตส่งมาให้ทางไลน์ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ว่า "ยังไงก็คิดว่าทำบุญให้คนป่วยแบบพี่ด้วยนะคะ" แต่ทาง คุณซัน ไม่ได้ตอบข้อความกลับ กระทั่งสุดท้ายเกิดเหตุสลดขึ้น
ขณะเดียวกัน ทนายเดชา บอกว่า ผู้เสียชีวิตติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย ซึ่งตนและคุณซันพร้อมไกล่เกลี่ย แต่ขอให้ถอนฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ก่อน ทางผู้เสียชีวิตรับปากจะถอนฟ้อง แต่ผู้ฟ้องคดีนี้เป็นญาติอีกคน ผ่านไป 2 สัปดาห์ ยังไม่มีการถอนฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ จนเกิดเหตุขึ้น
ส่วนกรณีทนายฝั่งนั้นพยายามโยนความผิดว่าเราใช้สื่อกดดัน ทนายเดชา ยืนยันว่า ไม่มีใครกดดันใครได้ ทุกอย่างมีเหตุและผล อยากจะย้อนถามกลับทนายฝั่งตรงข้ามว่า ที่ลูกความต้องจบชีวิตตัวเองเพราะอะไรกันแน่
ภายหลังจากแถลงข่าวไปแล้วนั้น ทนายเดชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า "ทนายความของผู้เสียชีวิตคือตัวปัญหา คือผู้บงการทุกอย่างจริงหรือไม่ คดีบ้านอากู๋ผู้เสียชีวิตขอร้องทนายความของตัวเองให้ถอนคำร้องครอบครองปรปักษ์ เพราะไม่ได้ต้องการบ้านของบุคคลอื่น แต่ทนายความไม่ยอม กราบเท้ายังไม่ยอม ทนายความคือตัวบงการทุกอย่าง แต่ไม่ได้รับผิดชอบต่อความตายของลูกความ"
