พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

View icon 225
วันที่ 26 ก.พ. 2567 | 20.07 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 09.06 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในการนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ ซึ่งอัญเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นการชั่วคราว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ มาประดิษฐานในประเทศไทยครั้งนี้ รัฐบาลไทย ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์กรุงนิวเดลี ซึ่งขุดพบจากสถูปโบราณเมืองปิปราห์วา (Piprahwa) และอัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวก พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากเมืองสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ

ในการนี้ ทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้า และพระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่มณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จากนั้นจะเชิญไปตั้งยังส่วนภูมิภาค พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมานี้ เป็นที่รู้จักในชื่อ "พระธาตุกบิลพัสดุ์" เนื่องจากมาจากสถานที่ในแคว้นมคธ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเมืองโบราณแห่งกบิลพัสดุ์ พระบรมสารีริกธาตุ ถือว่าเป็นโบราณวัตถุและสมบัติทางศิลปะ ประเภท AA คือ วัตถุโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สูงสุด โดยปกติแล้วจะไม่นำออกนอกประเทศ การอัญเชิญมาครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในรอบ 2,567 ปี ที่พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวก เบื้องขวาและเบื้องซ้าย ทั้งสององค์เสด็จมาพร้อมกัน และเป็นครั้งแรกในรอบ 72 ปี ที่มีการอัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ออกนอกประเทศ หลังจากได้รับการส่งมอบคืนให้กับสาธารณรัฐอินเดีย

พระบรมสารีริกธาตุ คือ พระบรมอัฐิของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ นับเป็นปูชนียวัตถุแทนพระพุทธองค์ที่พุทธศาสนิกชนนับถือบูชาแต่แรกปรินิพานสืบมาจนถึงปัจจุบัน ในมหาปรินิพพานสูตรกล่าวถึงพระบรมสารีริกธาตุว่า หลังจากการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว โทณพราหมณ์ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น 8 ส่วน เพื่อให้กษัตริย์และพราหมณ์อัญเชิญกลับไปยังดินแดนของตน 8 เมือง และหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานได้ 270 ปี พระเจ้าอโศกมหาราชที่ทรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก โปรดให้สังคายนาพระธรรมวินัยรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุทั่วราชอาณาจักรมาบรรจุไว้ในสถูปที่ทรงรับสั่งให้สร้างขึ้น จำนวน 84,000 สถูป และมอบให้พระสงฆ์นำไปประดิษฐาน ณ ดินแดนต่าง ๆ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ

จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ไปสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวก ในพื้นที่ต่าง ๆ โดยที่ท้องสนามหลวง เปิดให้เข้าสักการะจนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2567, ภาคเหนือ ที่มณฑป ณ หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2567, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 2567 และภาคใต้ ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2567

ข่าวอื่นในหมวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง