สนามข่าว 7 สี - เหตุการณ์ที่อดีตนายอำเภอหัวร้อน จะเบี่ยงรถขึ้นสะพานแต่ไปพุ่งชนรถของ ครูหมึก บอนไซ จนรถของอดีตนายอำเภอพลาดท่าตกสะพาน พ่อและภรรยาของอดีตนายอำเภอเสียชีวิต คดีนี้เหมือนงานจะเข้าอดีตนายอำเภออีก เพราะจากพฤติการณ์ถอยหลังเหยียบคันเร่งพุ่งชนแล้ว อาจเข้าข่ายพยายามฆ่า ลงสนามข่าวเรื่องนี้กับ คุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด
นายสุพล อดีตนายอำเภอ ชนครั้งแรก ก่อนขึ้นเชิงสะพานธนะรัชต์ เทศบาลเมืองราชบุรี ถือว่าประมาท แต่การถอยหลัง เดินหน้าเหยียบคันเร่งพุ่งชนรถเก๋ง ครูหมึก บอนไซ ถึง 2 ครั้ง ก่อนพลาดท่าตกสะพาน สังเวยชีวิตพ่อ ภรรยา ดับอารมณ์ร้อน ครูหมึกบอก มันพยายามฆ่าแล้ว ไม่ใช่อุบัติเหตุ
ฟังความแค่ ครูหมึก ไม่ได้ สนามข่าว 7 สี ย้อนเสียงอดีตนายอำเภอหัวร้อน ยันไม่ได้ตั้งใจ แต่ตกใจจึงถอยหลัง และเผลอเหยียบคันเร่ง จึงพุ่งชนซ้ำไป 2 รอบ
อดีตนายอำเภอบอกไม่ได้ตั้งใจ สนามข่าว 7 สี เจาะในมุมกฎหมาย สอบถามไปยังทนายความ บอกจากพฤติการณ์ที่ปรากฏในคลิป นั่นไม่ใช่แค่ประมาท แต่มันคือพยายามฆ่า
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สนามข่าว 7 สี สอบถามไปยังตำรวจ บอกว่า จากการไล่กล้องวงจรปิด พบว่าทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหากัน เป็นเหตุเฉพาะหน้า แต่เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจนจะไล่กล้องตรงจุดอื่นโดยรอบ เพื่อตรวจทานว่าทั้งคู่มีเรื่องกันมาก่อนหรือไม่
ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นชัดเจนว่า อดีตนายอำเภอเข้าข่ายตั้งใจชน เจตนาให้เสียทรัพย์ ส่วนจะเข้าข่ายเจตนาฆ่าหรือไม่นั้นอยู่ที่หลักฐาน
ครูหมึก บอนไซ รถเสียหายเหยียบ 6 ล้านบาท ครูหมึก บอกว่า ในทางคดีถ้าขอโทษขอโพยกันอาจให้อภัยได้ เพราะกรรมได้ตามทันอดีตนายอำเภอแล้ว และเรื่องที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต
นอกจากความหัวร้อนที่ทำให้อดีตนายอำเภอต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปตลอดกาลแล้ว อนาคตอาจถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ถือเป็นบทเรียนของคนหัวร้อน ขาดอะไรก็ขาดได้ แต่อย่าขาดสติ เมื่อไหร่ที่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือการควบคุม ผลที่ตามมาประเมินค่าไม่ได้ โดยเฉพาะชีวิตที่ต่อให้คุกเข่าเรียกร้องเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันหวนมา
