นักศึกษาในกรุงมอสโกเปลี่ยนชื่อ "ไวไฟ" (Wi-Fi) สนับสนุนยูเครน แต่สุดท้ายถูกจับและต้องจำคุก 10 วัน
เมื่อวานนี้ สื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานว่า ศาลรัสเซียได้ตัดสิน "จำคุก" นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในกรุงมอสโก เป็นเวลา 10 วัน กรณีเปลี่ยนชื่อ "ไวไฟ" (Wi-Fi) เป็นข้อความที่แสดงถึงการสนับสนุนยูเครน โดยเขาได้เปลี่ยนชื่อเป็นคำว่า "กลอรี ทู ยูเครน" (Glory to Ukraine) หรือ ขอความรุ่งโรจน์มาสู่ยูเครน
ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมา เพราะว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจพบ ก่อนจะรายงานไปยังทางการรัสเซีย โดยศาลได้ลงความเห็นให้นักศึกษาคนนี้มีความผิดฐานแสดงสัญลักษณ์ในเชิงหัวรุนแรง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกจับนักศึกษา ภายในหอพักของมหาวิทยาลัย พร้อมกับยึดคอมพิวเตอร์พกพาและเราเตอร์ไวไฟ (wi-fi router) ของเขาไว้
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการรัสเซีย อ้างสิทธิจับกุมประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนยูเครน โดยข้อมูลจากแอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล เผยว่าเมื่อปีที่แล้ว มีประชาชนมากกว่า 21,000 คน ตกเป็นเป้าหมายของรัสเซีย ในการปราบปรามนักเคลื่อนไหวที่ออกมาต่อต้านสงคราม ขณะที่ทางการรัสเซีย เคยออกมากล่าวว่าไม่อนุญาตให้เรียกการโจมตีของรัสเซียในยูเครน ว่าเป็นการทำสงคราม แต่ควรเรียกว่าปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
