ค้น 8 คลินิกเสริมความงาม จับ 5 หมอปลอม

ค้น 8 คลินิกเสริมความงาม จับ 5 หมอปลอม

View icon 638
วันที่ 14 มี.ค. 2567 | 14.17 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปูพรมค้น 8 คลินิกเสริมความงาม จับ 5 หมอปลอม ลักลอบใช้ยาไม่มีทะเบียน ใช้เครื่องสำอางผิดประเภทฉีดเข้ากระแสเลือดอวดอ้างสรรพคุณช่วยฟื้นฟูร่างกาย ใช้ผู้ช่วยพยาบาลตรวจรักษา เตือนอาจพิการ-เสียชีวิตได้

ปูพรมตรวจค้นคลินิกเสริมความงาม ลักลอบใช้ยาไม่มีทะเบียน โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ปฏิบัติการตรวจค้นตามที่ได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบสถานพยาบาลที่มีการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ โฆษณาเครื่องสำอางที่บรรจุในภาชนะบรรจุรูปแบบแอมพูล/ไวแอล (ขวดแก้ว) มีการนำไปใช้ผิดวิธี ผิดวัตถุประสงค์ในคลินิกเสริมความงาม ด้วยวิธีฉีดเข้ากระแสเลือด โดยอวดอ้างสรรพคุณ ช่วยในการทำงานของสมอง หัวใจและหลอดเลือด การหายใจ การนอนหลับ การซ่อมแซมของ DNA ปฏิกิริยาอนุมูลอิสระต่างๆในร่างกาย ป้องกันการชราภาพและระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้คลินิกบางแห่งใช้หมอเถื่อนในการตรวจรักษา

เมื่อตำรวจสืบสวนทราบว่า มีสถานพยาบาลชื่อดังหลายแห่ง มีการโฆษณานำเครื่องสำอางมาฉีดให้กับผู้มารับบริการ โดยอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง จนนำมาสู่การร่วมปฏิบัติระดมกวาดล้าง รวม 8 จุด ในวันที่ 6 มี.ค. และ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา ตรวจยึดของกลาง จำนวน 205 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหา 6 คน เป็นแพทย์เถื่อน 5  คน  เจ้าของคลินิก 1 คน โดยผู้ทำการรักษาจบระดับชั้น ปวช. 1 คน หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล 2 คน ปริญญาตรี 2 คน ปริญญาโท 1 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา

ทพ.อาคม  ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ “Infinadi NAD+ aging solution” ที่ยึดได้ในครั้งนี้ เป็นเครื่องสำอางปลอม ไม่ได้ผ่านการรับรองการฆ่าเชื้อ และได้รับรองจากหน่วยงานแพทย์ของรัฐ หากประชาชนได้รับการฉีดสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายจนเกิดความพิการ หรือเสียชีวิต

สำหรับคลินิกที่ถูกบุกตรวจค้นทั้ง 8 แห่งมีรายละเอียด ดังนี้

1. สถานพยาบาลเสริมความงาม ตั้งอยู่บริเวณซอยลาดพร้าว 94 ขณะเข้าตรวจสอบพบว่ากำลังให้บริการฉีดเครื่องสำอางให้กับผู้มารับบริการ และจับกุมผู้ให้บริการฉีดยา ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ต้องหาสารภาพว่าจบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล มาทำงานคลินิกนี้ได้ประมาณ 8 เดือน รับเงินเดือน 15,000 บาท และได้แจ้งข้อหาผู้ดำเนินการสถานพยาบาลด้วย

2. สถานพยาบาลเสริมความงาม ตั้งอยู่บริเวณซอยโยธินพัฒนา แขวงคลองจั่น ขณะเข้าตรวจสอบพบว่ากำลังให้บริการฉีดเครื่องสำอางให้กับผู้มารับบริการ และพบบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วของเครื่องสำอางเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบพบผู้ที่ให้บริการฉีดยา ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ปกติจะเป็นผู้ช่วยแพทย์ ยกเว้นวันที่แพทย์ไม่เข้าคลินิก ก็จะเป็นผู้ฉีดยา

3. สถานพยาบาลเสริมความงามตั้งอยู่บริเวณ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง ตรวจยึด ยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำนวน 12 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนเป็นเครื่องสำอาง แต่นำไปใช้ผิดประเภทโดยการนำมาฉีด 3 รายการ

4. สถานพยาบาลเสริมความงาม ในพื้นที่ ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย พบเป็นคลินิกเถื่อนเปิดดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเข้าตรวจสอบพบว่ากำลังให้บริการฉีดยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยาให้กับประชาชนที่มารับบริการ ตรวจสอบพบผู้ที่ให้บริการฉีดยา ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยจบหลักสูตรพยาบาล มาทำงานที่คลินิก รับเงินเดือน 25,000 บาท และตรวจยึด ยาที่ยังมิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา 5 รายการ

5. สถานพยาบาลเสริมความงาม ในพื้นที่ถนนสุขาภิบาล 2 เขตประเวศ  ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนเป็นเครื่องสำอาง แต่นำไปใช้ผิดประเภทโดยการนำมาฉีด ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับประชาชน จำนวน 9 รายการ ยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยา จำนวน 5 รายการ เครื่องมือแพทย์ จำนวน 1 รายการ 

6. สถานพยาบาลเสริมความงาม ในพื้นที่ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนเป็นเครื่องสำอาง แต่นำไปใช้ผิดประเภทโดยการนำมาฉีด ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับประชาชน 1 รายการ ยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยา 2 รายการ

7. สถานพยาบาลเสริมความงาม ตั้งอยู่บริเวณ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ขณะเข้าตรวจสอบพบว่ากำลังให้บริการฉีดเครื่องสำอางให้กับประชาชนที่มารับบริการ และพบบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วของเครื่องสำอางจำนวนมาก ตรวจสอบพบผู้ที่ให้บริการฉีดยา ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จบชั้น ปวช. ทำงานที่คลินิกเงินเดือน 12,000 บาท โดยมีประสบการณ์จากการเคยทำงานในคลินิกอื่นมาก่อน
 
8. สถานพยาบาลเวชกรรม ตั้งอยู่บริเวณ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบผู้ให้บริการตรวจรักษา ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่า จบการศึกษาระดับปริญญาโท จากต่างประเทศ ด้านการบริหารงานบุคคล แต่มีความสนใจในด้านการแพทย์ จึงมาทำการรักษาในคลินิก ทำมาแล้วหลายปี อาศัยความรู้จากการเคยทำงานที่คลินิกอื่นมากก่อน ผู้มารับการรักษาส่วนมากจะเป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง