องคมนตรีร่วมประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด CND สมัยที่ 67 เป็นวันที่สอง

View icon 106
วันที่ 16 มี.ค. 2567 | 20.03 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
วานนี้ ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขาธิการ และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมคณะผู้แทนประเทศไทยจากมูลนิธิโครงการหลวง  และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ร่วมฟังการอภิปรายโต๊ะกลม ในหัวข้อ "แนวทางการ ดำเนินงาน: หนทางสู่สำเร็จในปี ค.ศ. 2029 The way forward: the road to 2029" ซึ่งแต่ละประเทศ ได้นำเสนอแนวทางการดำเนินงานเพื่อบรรลุสู่ผลสำเร็จตามปฏิญญารัฐมนตรี ที่ตั้งเป้าหมายในปี 2029 โดยที่มูลนิธิโครงการหลวง ดำเนินการส่งเสริมพืชทดแทนฝิ่น สอดรับกับความท้าทายตามปฏิญญารัฐมนตรีข้อที่ 1 คือ การขยายตัวและกระจายความหลายหลากของตลาดยา และข้อที่ 2 คือ การปลูก การผลิต การลับลอบค้าสารเสพติด และยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย โดยดำเนินการตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการ สืบสาน รักษา และต่อยอด แนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาอาชีพที่สุจริต สร้างรายได้ที่มั่นคงทดแทนการปลูกฝิ่น ต้นตอของยาเสพติดร้ายแรง และบั่นทอนความมั่นคงของประเทศ

ในช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะ ได้ร่วมประชุมหารือความร่วมมือทางวิชาการในระดับภูมิภาค กับคณะจากสำนักงานยูเอ็นโอดีซี ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ซึ่งมีโครงการพัฒนาในพื้นที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยในปี 2556 ยูเอ็นโอดีซี ประจำเมียนมา ได้ร้องขอความร่วมมือจากมูลนิธิโครงการหลวงสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาทางเลือกในพื้นที่รัฐฉาน และมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ 2 ฉบับ ในปี พ.ศ.2560 และ 2561 สำหรับการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานร่วมกันเป็นเวลา 2 ปี ในปี 2567-2568 โดยโครงการหลวงจะสนับสนุน ยูเอ็นโอดีซี ประจำเมียนมา และ สปป.ลาว ใน 3 กิจกรรม ได้แก่ การสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรหญิง ทั้งรูปแบบการฝึกอบรม การส่งเสริมอาชีพ และการศึกษาดูงานในพื้นที่โครงการหลวง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง การส่งเสริมการปลูกอะโวคาโดที่เมืองตองยี รัฐฉาน เพื่อให้คำแนะนำด้านพันธุ์ การขยายพันธุ์ การตลาด และการแปรรูป รวมทั้งสนับสนุนองค์ความรู้ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และสารชีวภัณฑ์ สำหรับใช้ในแปลงกาแฟ โดยยูเอ็นโอดีซี ประจำเมียนมา จะสนับสนุนโครงการหลวง ใน 2 กิจกรรม ได้แก่ การปรับปรุงคุณภาพและพันธุ์กาแฟ โดยพัฒนาต่อยอดความร่วมมือให้เป็นไปตามความมุ่งมั่นของโครงการหลวงในการ ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก

ข่าวอื่นในหมวด