ลูกน้องบิ๊กโจ๊กเชื่อคดีเป้รักผู้การเท่าไหร่ ทำถูกออกหมายจับ

ลูกน้องบิ๊กโจ๊กเชื่อคดีเป้รักผู้การเท่าไหร่ ทำถูกออกหมายจับ

View icon 223
วันที่ 19 มี.ค. 2567 | 12.52 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผู้การฯนำเกียรติ โผล่แจงในฐานะผู้ต้องหา ติดร่างแหเพราะผู้บังคับบัญชาให้เงินมาทำงาน มูลเหตุมาจากการสอบสวนคดีเป้รักผู้การ 140 ล้าน แฉ 34 คน รับโอนเงินกลับไม่โดนหมายจับ เส้นเงินโยงไปถึงบิ๊กตำรวจ เมีย พี่สาว

ปมหมายเรียกปมบิ๊กโจ๊ก ภายหลังการแถลงข่าวของทีมที่ปรึกษากฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.นำเกียรติ ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก ขออนุญาตใช้เวทีชี้แจงกับสื่อมวลชนในฐานะผู้ต้องหาคนหนึ่ง โดยระบุว่า กรณี พ.ต.ท. คริษฐ์ใช้บัญชีในชื่อของบุคคลอื่น 8 บัญชี ซึ่งข้อเท็จจริงส่วนนี้ปรากฎต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ จากนั้นอ้างว่ามีการสืบสวนขยายผลไปสู่การล่อซื้อจับกุมของ สน.เตาปูน มีเส้นเงินหรือการทำธุรกรรมของมินนี่ กับพิมพ์วิไล ที่ทำธุรกรรมกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ แต่ตนกลับถูกออกหมายจับ ทั้งที่เป็นเงินที่ผู้บังคับบัญชาให้ไปทำงาน ไปดูได้ว่าผมต้องเลี้ยงดูลูกน้องกี่คน ที่สโมสรตำรวจ

พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวว่า คดีที่ สภ.คอหงส์ เส้นทางการเงิน การทำธุรกรรมการเงินจากพิมพ์วิไล เว็บ BNK มาสเตอร์ ซึ่งถูกดำเนินคดีพร้อม พ.ต.ท.คริษฐ์ ทีมทนายความได้ประสานขอข้อมูลกับทนายความของ น.ส.พิมพ์วิไล เพื่อมาตรวจสอบ จะเห็นได้ว่าเส้นเงินที่แตะกับพิมพ์วิไลโดยตรง มี 34 รายชื่อ ที่มีการรับโอน แต่ไม่ถูกดำเนินคดี เส้นเงิน 3 เส้นหลัก ไปไหนบ้าง  โดย 2 เส่นไปหาตำรรวจ 2 ชุด 9.2 ล้าน กับ 13 ล้าน และเส้นเงินที่ 3 ไปยังนายอักษรย่อ ค.ควาย โอนไปยัง 3 เส้นเงิน ยอด 1.4 แสน โอนให้ผู้สื่อข่าว-สมาคมนักข่าว ยอดเงิน 2.4 ล้าน โอนให้ตำรวจหลายหน่วย และยอดเงิน 2.3 แสน โอนให้ญาติผู้บังคับบัญชาระดับสูง นายพล อักษรย่อ ต. ภรรยา อักษรย่อ ก. และ พี่สาว อักษรย่อ จ.

พล.ต.ต.นำเกียรติ เชื่อว่ามูลเหตุจูงใจดำเนินคดีพวกตน มาจากการทำงานกับผู้บังคับบัญชา คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และมาจากการที่เคยทำคดีผู้การชลบุรี 140 ล้าน ที่มาของวลี “เป้รักผู้การเท่าไหร่” มีตำรวจตกเป็นผู้ต้องหา ข้อมูลทางการสืบสวนพบว่ามีเส้นทางการทำธุรกรรมการเงินส่วน จากพันตำรวจเอก “ด.” มีการกระทำน่าเชื่อว่าผิดกฎหมาย และมีการทำธุรกรรมไปยังคนอื่นอีกหลายคน ส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ และตำรวจผู้หญิง 2 คน อักษรย่อ ว. กับ ก. ซึ่งเป็นคนที่สัมพันธ์กับตำรวจระดับสูง ทั้งนี้ชุดที่สอบสวนการทำความผิดของตน คือชุด PCT ชุดเดียว

“ผมถูกกระทำ ผมเป็นคนทำงาน ไปตรวจสอบประวัติผมได้ ถ้าผมชั่วขนาดนั้น ดูสภาพที่ผมใช้ชีวิตประจำวันอยู่ ลำพังเงินเดือนผมเลี้ยงลูกน้องไหวหรือไม่ ค่ากาแฟอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว เมื่อผู้บังคับบัญชาให้เงินมาใช้จ่ายดูแลลูกน้อง ทำงานไม่ต้องควักกระเป๋า แต่ต้องเดือดร้อนเพราะผู้ใต้บังคับบัญชาไปใช้บัญชีม้า ถ้าใช้บัญชีม้ากระทำผิด เงินเข้าต้องถูกถอนออกหมดไม่ให้เห็นเส้นทางการเงิน แต่ไปเหมาว่าคนที่เอาเงินไปใส่ตู้เป็นลูกน้องคริษฐ์ ลูกน้องมินนี่ เพียงเพราะไปพบภาพบางส่วนเท่านั้น” พล.ต.ต.นำเกียรติ ชี้แจง

พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวย้ำว่า ไม่เคยรู้จักมินนี่ อยู่ๆจะไปเรียกรับเงินจากมินนี่ได้อย่างไร ถ้า “รองภาคภูมิ” ไปเรียกรับ เขามีความจำเป็นอะไรต้องมาแบ่ง “นำเกียรติ” หรือตำรวจนายอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ถูกจับ ตนถูกกระทำจนแทบไม่มีอะไรเหลือแล้ว แม้จะมีอะไรเกิดขึ้นก็พร้อมน้อมรับ ถ้าเป็นสื่อมวลชนรับโอนเงินอย่างเดียวแล้วทำงาน โดนแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร  พ่อแม่ ครอบครัว หน้าตาไม่เหลือแล้ว ถูกย้ายมาประจำ ศปก. ถูกตัดเงินตำแหน่ง ขณะที่บางคนรับโอนเงินมากกว่าผม แต่ไม่ถูกออกหมายจับ