ธนดล ลงพื้นที่ ส.ป.ก.โคราช 600 ไร่ โดนโรงงานแป้งมันเข้าใช้พื้นที่ ปล่อยน้ำเน่าเสียกระทบชุมชน
โคราช วันนี้(22 มี.ค.2567) เมื่อเวลา 09.30 น. นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. กรณีนายกฤษฎา อินทามระ ทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป.แจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตาม ป.อาญา ม.157 หลังพบว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้โรงงานแป้งมันปล่อยน้ำเน่าเสียลงบนที่ดินนับร้อยไร่จนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านรวมทั้งเด็กนักเรียนและพระสงฆ์ต้องอยู่อย่างทรมานจากกลิ่นเน่าของมันสำปะหลัง
โดยนายธนดล ร่วมประชุมก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้ประโยชน์ทำกินในพื้นที่ ส.ป.ก.หลังถูกร้องเรียนว่ามีนายทุนรายใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา แอบอ้างสิทธิฯ ทำกิน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีขุดดิน ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ม.3(15) ซึ่งเจ้าหน้าที่ ปปง. จะดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป โดยจะดำเนินคดีกับนอมีนี 13 รายที่ถือครองแทนนายทุนรายใหญ่
นอกจากนี้ ยังรับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านกรณีการลักลอบทิ้งน้ำเสียลงพื้นที่ ส.ป.ก.หลายร้อยไร่ ในเขต ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง นครราชสีมา และปัญหาน้ำเสียจาการปล่อยน้ำทิ้งของโรงงานแป้งมันฯ จนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านใกล้เคียง
จากนั้นจึงลงพื้นที่จริง พบการใช้ลวดหนามมากันปิดล้อมทางเข้าด้านหน้าซึ่งเดิมเคยปิดแค่ป้ายห้ามเข้าเท่านั้น คณะฯ จึงต้องอ้อมไปเข้าพื้นที่ที่ดิน ส.ป.ก.ด้านในอีกทางหนึ่งก่อนเดินเท้าสำรวจตรวจสอบโดยใช้เวลานานกว่า 2 ชม. พบการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวนหลายตัวกำลังแรงม้าสูง ในลักษณะการใช้งานอุตสาหกรรมมากกว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อการเกษตร ตามวัตถุประสงค์ของการขออนุญาต ส.ป.ก.ว่าใช้สำหรับเลี้ยงปลา และทำสาหร่าย
นายธนดล กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า พื้นที่ ส.ป.ก.13 แปลงเนื้อที่เกือบ 600 ไร่ที่ชาวบ้านได้ลงในระบบเอาไว้คือเลี้ยงปลาและเลี้ยงสาหร่ายแต่พอลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่จริงพบว่าไม่เป็นดังที่แจ้งเอาไว้ภาพที่เห็นก็น่าจะเป็นน้ำเสียและปลาไม่สามารถอาศัยอยู่ได้แน่นอน ส่วนผู้ครอบครองทั้ง 13 รายชื่อ จะให้ปฏิรูปที่ดินเชิญทั้งหมดมาชี้แจงหากไม่สามารถชี้แจงได้จะเพิกถอนสิทธิ์ออกทั้งหมด ส่วนที่มีการขุดดินในพื้นที่ใหม่นั้น จะแจ้งความดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ม.3(15) ในส่วนของเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา 157 ทุกรายที่เกี่ยวข้อง ส่วนของการดำเนินคดีกับโรงงานนั้นจะอยู่กับตำรวจใช้การสืบสวนสอบสวน หากพบว่าเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดจะดำเนินคดี ส่วน ส.ป.ก.จะแจ้งความในข้อหาขุดดินในพื้นที่และทุจริตต่อหน้าที่ ส่วนของเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ข้อพิพาทที่อำเภอปากช่องนั้นพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดและจะเป็นคนแจ้งความดำเนินคดีเองทั้งหมด
