เช้าข่าว 7 สี - แม่ลูกผู้เสียหายไปร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกวัยรุ่นกลุ่มเดียวกับที่ไปทำร้ายกู้ชีพ ดักฟันลูกชายกว่า 100 แผล แต่เรื่องยังไม่จบ วัยรุ่นกลุ่มนี้ยังบุกตามไปที่ห้องพักย่านเสรีไทย ดีที่มีประตูเหล็กกันไว้ ไม่อย่างนั้นอาจต้องกระโดดจากชั้น 4 หนีตาย
แม่และลูกชายผู้เสียหายที่มาขอให้เพจสายไหมต้องรอดช่วย เล่าว่า แรกสุดลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาหาเรื่องแล้วใช้มีดรุมฟัน ต้องเย็บกว่า 100 เข็ม เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะไปทำธุระกับแฟนสาว ภายในซอยรามอินทรา 117 เขตมีนบุรี จนชาวบ้านต้องมาช่วยห้าม ส่วนเขาต้องไปขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยให้นำตัวส่งโรงพยาบาล
หลังออกจากโรงพยาบาล ก็กลับไปนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องพักในซอยเสรีไทย 32 กับแม่ แต่วัยรุ่นกลุ่มนี้ยกพวกตามมาอีก 4-5 คน แถมแฟนตัวเองยังแปรพักตร์ไปเข้ากับกลุ่มวัยรุ่น แถมมาชี้เป้าให้เข้าไปพังประตูเหล็กเข้ามาในห้อง จนผนังปูนตรงวงกบร้าว ประตูไม้ด้านในหลุด และลงไปทุบรถจักรยานยนต์ ส่วนสาเหตุที่เชื่อว่าแฟนสาวมาชี้เป้า และตะโกนบอกให้ฆ่าเขาให้ตาย เพราะทะเลาะกับแฟน หรือแฟนไปแอบคบคนในแก๊งแล้วมาเอาคืนเขา
แม่ผู้บาดเจ็บ เปิดใจว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้ก่อเหตุอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในวินาทีที่กำลังพังประตูเข้ามา ก็ตัดสินใจกับลูกชายว่า ถ้าประตูห้องพังจะให้ลูกกระโดดลงจากชั้น 4 หนีตาย แล้วจะเอาตัวเองมาขวาง ให้ลูกชายมีโอกาสรอด แต่เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นว่าโทรแจ้งตำรวจ 191 จึงทยอยหลบหนีไป หลังก่อเหตุแล้ว ยังใช้เบอร์ของแฟนลูกชายโทรมาข่มขู่เอาชีวิต และท้าให้ไปแจ้งความดำเนินคดี แต่พอไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี คดีก็ไม่คืบหน้า ส่วนที่ สน.บึงกุ่ม ที่ลูกชายโดนทำร้ายพนักงานสอบสวนก็ทำแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น
สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่มาก่อเหตุกับครอบครัวนี้ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ไปทำร้ายกู้ภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากที่แม่ลูกคู่นี้โทรไปขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือ และเกิดปากเสียงกันจนเกิดการทำร้ายกู้ชีพ ก่อนที่ตำรวจ สน.คันนายาว จะจับวัยรุ่นกลุ่มนี้ยกแก๊ง รวมถึงแฟนสาวของผู้ที่ชี้เป้า ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี และศาลเยาวชนและครอบครัวกลางสาขามีนบุรี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา
