ทุกข์ชาวบ้าน แท็งก์น้ำเก่า 30 ปี ท้องถิ่นไม่ยอมรื้อทิ้ง ชาวบ้านกำแพงแสนต้องประกาศขายที่ 3 ไร่ หนี้เอาชีวิตร้อน ช้ำใจเจ้าหน้าที่ไล่ให้ไปฟ้องศาล
ชาวกำแพงแสนผวา วานนี้(27 มีนาคม 2567) นายศุภชัย สระเพิ่มพูล 30 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวหลังโพสต์เฟซบุ๊ก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยมารื้อแท็งก์น้ำที่สร้างมานานกว่า 30 ปี แต่ขณะนี้มีสภาพชำรุดทรุดโทรม
นายศุภชัย กล่าวว่า เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วสมัยปู่ย่า ได้ให้พื้นที่ปลูกแท็งก์น้ำ โดยให้ปากเปล่าแลกเปลี่ยนกับการใช้น้ำฟรี โดยวันนี้มาเป็นตัวแทนของพี่สาว มีแท็งก์น้ำตั้ง ประมาณ 30 ปีแล้ว แท็งก์น้ำปูนระเบิด เห็นเหล็ก ฐานรากไม่แข็งแรง จึงหยุดการปล่อยน้ำขึ้นแท็งก์มานานเกือบปี เพราะกลัวแท็งก์น้ำจะถล่มใส่บ้านจนเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งในพื้นที่ใกล้กันมีบ้านถึง 3 หลัง และบริเวณข้างเคียงก็มีเด็กเล็กมากมาย ไม่มีใครที่จะสบายใจและสมัครใจที่จะอยู่บนความอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยยื่นเรื่องมาหลายเดือน แต่ไม่มีความคืบหน้า
ชาวบ้านรายนี้ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ พี่สาวยื่นคำร้องที่หน่วยงาน ก็ไม่รับหนังสือคำร้องและยังแจ้งให้ไปจ้างทนายฟ้อง รอศาลตัดสิน อยากถามว่าหน่วยงานอำนวยความสะดวกอะไรให้กับชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ สามารถทำประชาคมได้ แต่หลังจากโพสต์โซเชียล ประกอบกับรู้สึกอึดอัด ได้ติดป้ายขนาดใหญ่ราคา 3,000 บาท ติดประกาศขายบ้าน 3 ไร่ เพื่อจะได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น จากนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่ อบต.รางพิกุล อำเภอกำแพงแสนเข้ามาดู
ด้านนายสุรินทร์ ท่าน้ำตื้น ปลัด อบต.รางพิกุล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครปฐม ถกในกรณีดังกล่าว เนื่องจากสมัย ก่อนปู่ย่า ซึ่งเป็นเจ้าของที่ได้ยกที่ดินให้เป็นสาธารณะ แต่ไม่มีการทำหนังสือ เป็นการอุทิศให้ปากเปล่า หลังได้รับการร้องเรียน อบต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ พบว่าแท็งก์น้ำดังกล่าว ชำรุดจริง ส่วนจะรื้อหรือไม่ ต้องใช้เวลาศึกษาและตรวจสอบรายละเอียดขั้นตอนของกฎหมาย
