ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีรายงานข่าวจากต่างประเทศ พบชายชาวไต้หวัน เสียชีวิตจากการกินก๋วยเตี๋ยวผัด ซึ่งคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับกรดชนิดหนึ่ง ที่มักจะพบในอาหารประเภทแป้งที่ถูกเก็บไว้นาน
เพจ "หนีหนาวไต้หวัน ฉันมาแล้ว" เผยข้อมูลชายชาวไต้หวัน อายุ 39 ปี เสียชีวิตจากผัดซีอิ๊วร้านดัง ซึ่งผลชันสูตรไปพบ Bongkrekic acid ชนิดเดียวกับที่เคยทำให้ครอบครัวหนึ่งในจีน เสียชีวิตไปถึง 9 คน จากการกินบะหมี่เก็บนานค้างปี
รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ ชีวานันท์ เดชอุปการ ศิริสมบูรณ์ รองหัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า กรดตัวนี้น่าจะมาจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งบางชนิดเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต
ย้ำว่า การเก็บอาหารประเภทแป้งไว้ในตู้เย็น เป็นการช่วยชะลอการเจริญของจุลินทรีย์ แบคทีเรีย ยีสต์ และรา ซึ่งจุลินทรีย์ส่วนใหญ่จะไม่เจริญในตู้เย็น แต่บางประเภทก็เจริญในตู้เย็นได้ และระหว่างนั้นมันอาจสร้างสารพิษ หรือกรดตัวนี้ออกมา จึงเป็นสาเหตุว่าอาหารที่แช่ตู้เย็นถึงมีสารพิษได้ และเป็นได้ว่าอาจจะปนเปื้อนมาตั้งแต่กระบวนการผลิตเส้น หรือวัตถุดิบตั้งต้น ซึ่งสารพิษบางประเภททนความร้อน ไม่สามารถทำลายได้ด้วยอุณหภูมิหุงต้มปกติได้ 100 องศาเซลเซียส เช่น สารพิษจากรา จะทนความร้อนมาก
ส่วนที่ญี่ปุ่นรายงาน พบผู้ติดเชื้อแบคทีเรียอันตรายที่ก่อให้เกิดโรคแบคทีเรียกินเนื้อคนแล้ว 517 คน และในกรุงโตเกียว พบผู้ติดเชื้อ 88 คน พุ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า
มีข้อมูลจากกรมการแพทย์ของไทย ว่าโรคเนื้อเน่า หรือแบคทีเรียกินเนื้อ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่ผิวหนังทางบาดแผล และเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะกระจายไปได้อย่างรวดเร็วในชั้นใต้ผิวหนัง และพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย อาการของโรค จะมีบวม แดง ปวด ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำภายใน 36 ชั่วโมงหลังติดเชื้อ และอาจมีไข้หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัวด้วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีประวัติไปดำนา ลุยโคลน และโดนหอย หรือเศษแก้วบาด เศษไม้ตำเท้า และไม่ได้ทำแผล หรือรักษาใด ๆ
