ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตามกันต่อกรณีที่แก๊งวัยรุ่นหญิงบุกไปทำร้ายและแกล้งเด็กพิเศษ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง ๆ ที่แม่ของเด็กอยู่ในบ้าน แต่ช่วยลูกไม่ได้เพราะเป็นผู้พิการทางหู จึงไม่ได้ยิน ล่าสุดกรณีนี้ก็มีการทำข้อตกลงเยียวยาและขึ้นทัณฑ์บนแล้ว
ก็อาจไม่เห็นภาพ ได้ยินแต่เสียงหัวเราะร่วนชอบใจของกลุ่มวัยรุ่นหญิง 5 คน (อายุ 14-18 ปี) ที่บุกเข้าไปแกล้งเด็กพิเศษ (พิการทางสมอง) ทั้งตบหัว จับหน้าอก ร่วมถึงไลฟ์ และถ่ายคลิปทำอนาจารระหว่างที่เด็กพิเศษไปอาบน้ำ
เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ในตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ที่สำคัญระหว่างเกิดเหตุ แม่ของเด็กซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อยู่ในบ้าน แต่ไม่ได้ยินว่าลูกถูกทำร้าย จึงช่วยลูกไม่ได้ เพราะเธอหูหนวก หลังเหตุนี้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.ไชยปราการ และกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าพบตำรวจแล้ว
โดยล่าสุด พันตำรวจเอก สันติภาพ โชติภัทร์ ผู้กำกับการ สภ.ไชยปราการ บอกว่า กลุ่มเยาวชนยอมรับผิด ทำไปเพราะคึกคะนอง และผู้ปกครองยืนยันจะเยียวยาให้ผู้เสียหาย โดยมี สำนักงานยุติธรรม ช่วยดำเนินการ ส่วนทางคดี ตำรวจทำบันทึกข้อตกลงและขึ้นทัณฑ์บนไว้แล้ว ถ้ากระทำผิดอีกครั้ง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
และพฤติกรรมของแก๊งเด็กก่อเหตุกลั่นแกล้งกัน ก็มีข้อห่วงใยทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าจะกลายเป็นการเสพติดความรุนแรง แยกถูกผิดไม่ได้เมื่อเติบโตกว่านี้ รวมทั้งห่วงเหยื่อด้วยนั้น
หมอเดว (รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี) ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม และกุมารแพทย์ ก็แนะพ่อแม่ให้สอนลูก หากถูกแกล้งต้องให้รู้จักขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ สอนให้รู้จักเอาตัวรอด ระวังตัวด้วยการเดินหนีออกจากสถานการณ์ที่ถูกทำร้าย ที่สำคัญต้องสอนให้ลูกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้พ่อแม่รู้เสมอ
ส่วนกลุ่มเด็กที่ชอบแกล้งเพื่อน อันนี้จะสอนคนละแบบกัน พ่อแม่ต้องให้ความอบอุ่นกับลูก และสอนให้ลูกรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ป้องกันปัญหาการเรียกร้องความสนใจในทางที่ผิด ที่สำคัญต้องไม่ปกป้องลูกเมื่อทำความผิด
