สาวช้ำรัก ถูกหนุ่มอ้างเป็น รศ.ดร.หลอกให้รัก แล้วยืมเงินไม่คืน

สาวช้ำรัก ถูกหนุ่มอ้างเป็น รศ.ดร.หลอกให้รัก แล้วยืมเงินไม่คืน

View icon 372
วันที่ 5 เม.ย. 2567 | 20.08 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจ้าของร้านนวดช้ำใจ ถูกหนุ่มใหญ่อ้างเป็น รศ.ดร. และทนายความ หลอกให้รัก วาดฝันชีวิตคู่ที่สวยงาม ก่อนหลอกยืมเงิน พอทวงถามกลับถูกทำร้ายร่างกาย

วันนี้ ( 5 เม.ย.67) นางสาวจอย นามสมมติ ผู้เสียหหาย เข้าร้องขอความช่วยเหลือ กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ช่วยตรวจสอบหนุ่มใหญ่คนหนึ่ง ว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ เพราะลงรูปโพรไฟล์ใน LINE ว่า เป็นอาจารย์ของมหาลัยมหาวิทยาลัยชื่อดัง และยังลงรูปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ดูมีความเชื่อถือว่า เป็นอาจารย์ และทนายความ

ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเปิดร้านนวดแผนโบราณ ย่านคูคต จังหวัดปทุมธานี ได้รู้จักกับหนุ่มใหญ่อ้างว่าเป็น รอง.ศ.ดร. รพีพันธุ์ ชื่อเล่นว่า ดร.เชรฐ เมื่อเมษายน 2566 เป็นลูกค้าประจำที่ร้านนวด เริ่มมีความสนิทสนมกัน คุยกันได้ 3 เดือน ก่อนตกลงเป็นแฟนกัน ฝ่ายชายได้ย้ายมาอยู่กับตนที่ห้องพัก บอกว่า เป็นอาจารย์ สอนวิชา Ai และเป็นทนายความ เปิดบริษัทขายแบตเตอรี่อยู่ย่านสายไหม ทุกวันฝ่ายชายจะออกไปทำงานในช่วงเช้า และกลับตอนเย็น และมีการลงรูปสถานที่ต่าง ๆ ในโซเชียล ให้ดูน่าเชื่อถือว่ามีหน้าที่การงานที่สูง จึงหวังฝากชีวิตไว้กับชายคนนี้ 

ช่วงแรกที่คบกันฝ่ายชายได้ซื้อแหวนทอง ซื้อโทรศัพท์มือถือให้ แถมพาไปบ้านที่เชียงรายของตน สัญญาว่าจะจดทะเบียนสมรสด้วย บอกให้ตนออกจากร้านนวด จะให้เงินเดือน 50,000 บาท โดยไม่ต้องทำงานอะไร ตนหลงเชื่อลาออกจากงาน และยกร้านนวดให้น้องสาวดูแลแทน แต่ปรากฏว่า ฝ่ายชายไม่ได้ให้เงินเดือนอย่างที่บอก อ้างว่าบัญชีถูกตำรวจอายัดไว้ตรวจสอบ เพราะไปทำคดียาเสพติดให้ลูกความ

ต่อมาฝ่ายชายได้ขอยืมเงินตน 150,000 บาท อ้างว่าต้องใช้เงินวางมัดจำ 600,000 บาท ในบางคดีความ และบอกจะคืนเงินให้สิ้นเดือนมกราคม แต่พอถึงวันนัดหมายฝ่ายชายไม่คืนให้  ขอผลัดไปเรื่อย จึงเริ่มรู้สึกแปลก ๆ จึงมีการทวงถามตลอดเวลา เกิดมีปากมีเสียงกันทุกครั้ง กระทั่งช่วงเดือนมีนาคม ได้เงินคืน 20,000 บาท พอทวงถามส่วนที่เหลือ ถูกบ่ายเบี่ยง จึงไม่มั่นใจที่จะฝากอนาคตไว้กับผู้ชายคนนี้ จึงได้ขอเลิกกับฝ่ายชาย แต่กลับถูกตามง้อขอคืนดี บุกมาที่ทำงาน บอกว่าจะนำเงินมาใช้หนี้และมีของมาให้ แต่ไม่เป็นไปอย่างที่บอก เลยมีปากมีเสียงกัน ตนถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกาย บีบคอ แล้วชกเข้าที่หน้าจนฟันโยก 

หลังเกิดเรื่องตนเองได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คูคต แต่ตำรวจยังไม่สอบปากคำ และยังไม่ตรวจร่างกาย ตนจึงไปโรงพยาบาล ตรวจร่างกายเองไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักฐาน ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย พอตำรวจรู้ว่านำเรื่องมาร้องสายไหมต้องรอด จึงเรียกตนเข้าไปที่โรงพัก และพึ่งส่งให้ไปตรวจร่างกาย

ล่าสุด ชายที่อ้างว่าเป็น รศ.ดร. รพีพันธุ์ ได้ติดต่อให้ข้อมูล ปฏิเสธว่าตนเป็นฝ่ายที่ถูกยืมเงิน และเรื่องอยู่ที่ชั้นศาล และตนถูกฝ่ายหญิงทำร้ายร่างกาย และพยายามฆ่า ตอนนี้เรื่องอยู่ในชั้นตำรวจ ส่วนเรื่องที่เป็นอาจารย์ หรือเป็นทนายหรือเปล่านั้น ตนมองว่าไม่เกี่ยวกับรูปคดี ตนไม่ขอพูดถึง เพราะหน้าที่การงานของตน เป็นถึงระดับที่ปรึกษาธุรกิจ จะทำให้เสื่อมเสียได้ ผมไม่ได้ปฏิเสธนะว่าผมไม่ได้มีตำแหน่งอย่างที่ฝ่ายหญิงกล่าว  แต่มองว่ามันไม่เกี่ยวกัน