ชื่นชมหนุ่มวัย 19 ปี เก็บสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ได้ ขณะเล่นสงกรานต์ที่ ถนนข้าวก่ำ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนประกาศตามหาเจ้าของจนพบ เจ้าของทองคำ เผย ไม่คิดว่าจะได้คืน แม้พยายามตามหามาหลายวัน หลังจากนั้นมอบสินน้ำใจตอบแทน 10,000 บาท แทนคำขอบคุณ
กาฬสินธุ์ “ทองมีราคาสูงก็หาเงินซื้อได้ แต่คนดีมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเอาเงินซื้อได้” จึงเป็นภารกิจที่ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ต้องลงพื้นที่ตามหาพลเมืองดี ที่เป็นบุคคลตัวอย่างที่น่าชื่นชม หลังจากเก็บสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทห้อยพระเลี่ยมทอง แล้วประกาศตามหาเจ้าของ จนเจอเจ้าของสร้อยคอทองคำตัวจริงมารับคืน ภารกิจนี้ผู้สื่อข่าวก็ไม่ราบรื่นเท่าไหร่ เพราะ GPS พาเข้าผิดซอย ไปเจอฝูงสุนัขรอต้อนรับ แต่ก็มีพี่ที่อยู่ในซอยมาบอกทาง จึงต้องถอยออกมาตั้งหลักก่อนจะเจอหนุ่มพลเมืองดีในที่สุด ที่ชุมชนคุ้มหวย เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2567 ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เช็กอินที่ถนนสงกรานต์ (ถนนข้าวก่ำ) พร้อมโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความแบบสาธารณะว่า “ขออนุญาตโพสต์ตามหา ต่อให้ไม่มีหวังแต่ก็ยังหวัง ทองหายที่ถนนข้าวก่ำวันที่ 13/04/2567 ทองตามในภาพ ท่านใดเจอหรือร้านไหนรับซื้อไว้รบกวนติดต่อกลับหน่อยครับ ท่านใดพบเจอนำมาคืนมีสินน้ำใจให้ครับ” หลังจากนั้นก็มีเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กเข้ามาคอมเมนต์และกดแชร์กระจายข่าวสาร ต่อมาวันที่ 16 เม.ย. 2567 มีพลเมืองดีเก็บสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวได้ ซึ่งมีการประกาศตามหาเจ้าของเช่นเดียวกัน จนเจ้าของทองได้ไปรับสร้อยคอทองคำคืน
นายธนาทิพย์ จรูญเพ็ญ น้องบอล หนุ่มวัย 19 ปี บอกว่า วันนั้นเป็นวันที่ 13 เม.ย. 2567 เวลาประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืน ตนเองได้ไปเล่นสงกรานต์ ที่ถนนสงกรานต์ (ถนนข้าวก่ำ) เดินเล่นอยู่แล้วเห็นก็เลยเก็บมา ก็เลยเอาขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสร้อยทอง ก็เลยถือไว้เผื่อมีคนที่ทำหล่นมาเอาคืน แต่ก็ไม่มี ก็เลยเอาไปโพสต์ เพื่อตามหาเจ้าของ ก็ไม่มีคนทักมา ก็เลยไปเห็นเพจกาฬสินธุ์โพสต์ประกาศ ตามหาคนเก็บสร้อยคอทองคำพอดี ก็เลยติดต่อไปยังเบอร์ที่เขาให้ไว้ ตอนที่เก็บได้ก็ไม่คิดว่าจะเอาไปเป็นของเจ้าของ คิดว่ากว่าเจ้าของสร้อยจะเก็บเงินซื้อได้ ตัวเองก็ไม่สบายใจด้วย แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นทองแท้ หรือ ทองปลอม ตนเองก็ต้องคืนเจ้าของอยู่แล้ว ตอนนี้ตนเองเพิ่งเรียนจบ ม.6 จากโรงเรียนเมืองกาฬสินธุ์
ด้านนายพันธุ์ศักดิ์ จรูญเพ็ญ อายุ 48 ปี คุณพ่อของน้องบอล บอกว่า ปัจจุบันตนเองทำงานอยู่กองสาธารณสุข เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ รู้สึกดีใจที่น้องบอลลูกชายของตนเอง เก็บของมีค่าได้แล้วส่งคืนเจ้าของ เพราะตนเองสอนลูกๆ ประจำว่าของอะไรที่ไม่ใช่ของเราอย่าเอามาเก็บไว้ เพราะจะไม่สบายใจ ด้านสภาพทางการเงินของครอบครัวก็ขัดสน แต่ขอสู้ด้วยลำแข้งอย่างสุจริตแล้วสบายใจ ก็สอนลูกๆ ทุกคนว่าแม้เงินเล็กน้อย สลึงหนึ่ง ก็อย่าไปหยิบของใคร เพราะไม่ใช่ของเรา แม้ของพ่อเองที่วางไว้ก็ห้ามหยิบ ต้องขอก่อนพ่อถึงจะให้ ห้ามหยิบโดยพละการอย่างเด็ดขาด ตอนนี้รู้สึกภูมิใจในตัวลูกเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เจ้าของสร้อยคอทองคำได้มอบสินน้ำใจตอบแทนให้น้องบอล จำนวน 10,000 บาท แทนคำขอบคุณไว้แล้ว
