ขอความเป็นธรรม อดีตลูกสะใภ้ ยันไม่ได้กดเงิน 3 แสนของแม่ย่า ตำรวจตรวจสอบ ด้านตำรวจประสานธนาคาร พร้อมเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว
จากกรณี นางแช่มช้อย อายุ 58 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป พร้อมด้วยลูกสาวและลูกเขย ถือเอกสารใบแจ้งความ สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย และเอกสารการทำบัญชีย้อนหลังเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังพบว่าเงินในบัญชีธนาคารกรุงไทย 290,000 บาท ได้หายเกือบหมดบัญชี เหลือให้ดูต่างหน้าเพียง 16.69 บาท นั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 เม.ย.67) น้องมุ้ย อดีตลูกสะใภ้ อายุ 24 ปี เล่าว่า เมื่อปีที่แล้ว ได้พาแม่ย่าไปกดเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อมาจ่ายค่าวัว หลังจากนั้นได้นำเงินและบัตรเครดิตมอบให้แม่ยาย และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรอีกเลย รวมทั้งไม่เคยจดรหัสอะไรทั้งสิ้น จากนั้นตนก็มาทำงานตามปกติ เงินเดือนที่ได้ก็เอามาใช้จ่ายส่วนตัวตามปกติ ตนพร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ เส้นทางทางการเงิน ยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินของแม่ยายไปแน่นอน และก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาปรักปรำตน นอกจากนี้ลูกวัย 3 ขวบก็ถูกกีดกัน ไม่ให้ตนเองเลี้ยงดู โดยตนก็คิดถึงลูกอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ตนเลิกลากับสามีเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาอดีตสามีก็มีแฟนใหม่ต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยเจอกันอีกเลย ตนขอความเป็นธรรมกลับคืน
ด้าน พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ คงยิ่งเรืองสิน รองผกก.สืบสวน.สภ.สีคิ้ว เผยว่า ขณะนี้ได้เรียกผู้เสียหายมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับจำนวนเงินที่หายไป รวมถึงบุคคลที่เคยพาไปกดเงินทั้งหมดทราบว่ามี 2 คน คือลูกสาวและลูกสะใภ้ โดยพบว่าเงินจำนวนดังกล่าวมีการกดออกครั้งละ 10,000-20,000 บาท จำนวนหลายครั้ง และได้ประสานไปที่ธนาคาร เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง ที่มีร่องรอยการไปกดเงินตามจุดต่างๆ ในอำเภอสีคิ้ว แต่ติดปัญหาตรงที่ผู้เสียหายรู้ตัวช้าไป ซึ่งกล้องวงจรปิดก็มีระยะเวลาในการบันทึก แต่เจ้าหน้าที่ก็มีวิธีการสืบหาข่าว หรือตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ โดยจะต้องเรียกตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียด
