วงจรปิดจับภาพ หนุ่มวัย 26 ขับตุ๊กตุ๊กส่งลูกค้า ก่อนแวะขโมยเงินผ้าป่า 7 ครั้ง ได้เงิน 300 บาท สารภาพหาเงินไม่พอเลี้ยงลูก อยากขอโทษ ไม่คิดให้ดีก่อน
วันนี้ (23 เม.ย.67) ที่ สภ.บางศรีเมือง พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง, พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง และ พ.ต.ท.พงค์นเรศ ศิริเสถียร สว.สส.สภ.บางศรีเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เชิญตัว นายประชา หรือแม็ก อายุ 26 ปี มาที่สภ.บางศรีเมือง เนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 12.35 น. นายประชาได้ขับรถสามล้อสาธารณะ เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ธนบัตรเงินสดที่ทำบุญ ซึ่งติดอยู่ที่ต้นไม้ภายในถังผ้าป่า หน้าสำนักงานนิติบุคคล หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งย่านพระราม 5 จำนวน 300 บาท
นายประชา รับสารภาพว่า ได้หยิบเงินไปจริง เพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัว เพราะมีลูก ตนไม่ได้ตั้งใจทำ อยากจะขอโทษ ที่ทำไปเพราะไม่ยอมคิดให้ดีก่อน โดยตนมีอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊ก หาเงินไม่พอใช้เลี้ยงลูก และต้องเสียค่าเช่ารถ ทำให้ไม่มีเงินจะกิน ตนไม่เคยก่อเหตุที่ไหนมาก่อน รู้สึกผิดและสำนึกในสิ่งที่ทำ
ด้าน ผู้จัดการหมู่บ้านจัดสรร เล่าว่า ทางนิติฯ ได้ตั้งผ้าป่าไว้ มีเงินทั้งหมด 10 ไม้ แต่ตรวจสอบพบว่าเงินหายไปประมาณ 5 ไม้ จึงได้ย้อนกล้องวงจรปิดดูพบว่าคนร้ายได้หยิบเงินไปจำนวน 7 ครั้ง โดยเงินที่ติดถังผ้าป่าจะเป็นเงินแบงก์ยี่สิบ ตนรู้สึกว่าเงินผ้าป่าไม่สมควรที่จะถูกขโมยไป เพราะเป็นเงินทำบุญ ซึ่งตนทราบว่าคนร้ายจอดรับคนอยู่ที่ท่าน้ำบางศรีเมือง โดยรับผู้โดยสารเข้ามาส่งในหมู่บ้าน จึงใช้โอกาสนี้ขโมยเงินไป แต่คนร้ายพลาด เพราะตอนที่เข้ามาในหมู่บ้านเขาไม่มีบัตรประชาชน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จดป้ายทะเบียนรถไว้ และหลังจากเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางศรีเมือง
ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่นิติฯ ต้องวางแผนกันใหม่ เพราะต้องการนำเงินไปทำบุญ จึงต้องหาที่เก็บและดูแลให้ดี กลัวจะโดนขโมยอีก และจะต้องนับยอดจากไม้ทุกวัน จะเช็คอยู่ตลอดเวลา ตนจึงอยากฝากบอกคนที่คิดจะทำว่าให้คิดใหม่ อย่าคิดสั้นอย่าเอาเงินเพียงเล็กน้อยมาแลกกับการติดคุก และอย่าอ้างว่าไม่มีเงินกินข้าวจึงต้องขโมย เพราะงานสุจริตมีให้ทำตั้งมากมาย
เบื้องต้นทางด้าน พ.ต.ท.พงค์นเรศ ได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา ไม่พบว่าเคยก่อเหตุและไม่มีคดีติดตัว ส่วนสาเหตุที่ทำไป เพราะต้องหาเงินเลี้ยงลูก และเงินไม่พอกิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
