สาวแสบวัย 40 ปี งัดตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์กลางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี หอบเงินไปเสพยาบ้าในห้องน้ำห้างสรรพสินค้า สุดท้ายโดนรวบ พบเงินสดติดตัวเพียบ
วันนี้ (28 เม.ย. 67) ร.ต.ท.ธีระพันธ์ แก้วโพนยอ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีว่า มีคนร้ายงัดตู้บริจาคซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ภายในตึกอุบัติเหตุฉุกเฉิน ชั้น 1 โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ณ ที่เกิดเหตุพบตู้บริจาคโดนงัดทำลาย ซึ่งเงินภายในตู้บริจาคหายไปและมีเงินตกอยู่ที่พื้น จากการตรวจสอบกล้องวงรปิดพบคนร้ายเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 35 -40 ปี เดินไปในจุดตั้งตู้รับบริจาคและไม่นานได้ถือถุงพลาสติกวิ่งออกไป
ต่อมาเมื่อเวลาเวลา 11.00 น. ทาง ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานีว่า มีผู้หญิงคาดว่าเข้าไปเสพยาบ้าภายในห้องน้ำของห้างฯ จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจึงเรียกให้หญิงคนดังกล่าวออกมามา แต่เธอไม่ยอมออกจากห้องน้ำ พร้อมนำอุปกรณ์การเสพยาทิ้งลงในชักโครก แล้วกดน้ำลงไป เมื่อออกมาจากห้องน้ำพบว่า เป็นผู้หญิงมีตำหนิรูปพรรณและสวมเสื้อผ้าคล้ายกับคนร้ายก่อเหตุงัดตู้บริจาคที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
จากการตรวจค้นค้นกระเป๋าพบพระเครื่อง เงินเหรียญ และธนบัตร ใบละ 20-100 บาท รวม 6,000 บาท อยู่ในถุงพลาสติก เมื่อตำรวจสอบถามหญิงคนดังกล่าวได้ให้การวกไปวนมาอ้างว่า เงินในถุงได้มาจากการนำพระของพ่อผัวไปให้เช่า จึงประสาน พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำตัวไปสอบสวนขยายผล
จากการสอบสวนทราบชื่อ น.ส.ดวงใจ อายุ 36 ปี พักอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังจากนั้นเจ้าหนาที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจค้นห้องพัก พบเงินสดในถุงพลาสติกจำนวน 34,549 บาท แต่ น.ส.ดวงใจ อ้างว่าเป็นเงินสามี ซึ่งมีอาชีพเปิดแผงให้เช่าพระเครื่อง
สุดท้าย น.ส.ดวงใจ ให้การว่า ตนเดินทางมาวันเกิดเพื่อนที่ จ.อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา และยอมรับสารภาพว่าได้งัดตู้บริจาคโรงพยาบาลจริง หลังก่อเหตุได้เข้าพักที่อะพาร์ตเมนต์ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จากนั้นได้จ้างรถจักรยานยนต์ 3 ล้อให้ไปส่งที่ห้างฯ แต่รถ 3 ล้อ พาไปส่งอีกห้างฯ ตนโมโหแต่ก็ยอมลงแล้วเข้าไปในห้องน้ำของห้างฯ พอออกมาก็พบตำรวจ ตรวจค้น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจปัสสาวะ น.ส.ดวงใจ ผลปรากฏว่า พบสารเสพติด จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
