จำคุก 2 ปี 20 วัน “อานนท์ นำภา” จัดม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ 2 ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง

จำคุก 2 ปี 20 วัน “อานนท์ นำภา” จัดม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ 2 ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง

View icon 33
วันที่ 29 เม.ย. 2567 | 15.11 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลอาญาใต้ สั่งจำคุก “อานนท์ นำภา” 2 ปี 20 วัน จัดม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ 2 ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง ถือเป็นคดีที่ 3 รวม 3 คดี ติดคุกยาว 10 ปี

วันนี้ (29 เม.ย.67) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.1676/2564 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอาญากรุงเทพใต้ยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา ทนายความ และแกนนำนักเคลื่อนไหวม๊อบราษฎร์ ในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง จากกรณีที่จำเลยจัดปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564

โดยศาลพิเคราะห์พยานคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้วรับฟังได้ว่า ข้อความคำปราศรัยของจำเลยมุ่งหมายสถาบันโดยตรง หากจำเลยมุ่งหมายจะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ตามที่จำเลยอ้าง ก็ไม่มีเหตุจำเป็นอย่างใดที่จำเลยจะต้องยกเอาสถาบันอันเป็นที่เคารพของประชาชนมากล่าวเปรียบเทียบเปรียบเปรยในทางที่เสื่อมเสีย จำเลยเจตนาใส่ความทำให้เสื่อมเสียต่อพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ด้อยค่า ข้ออ้างของจำเลยที่นำสืบขัดต่อเหตุผล ไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อีกทั้งไม่มีบทบัญญัติเหตุยกเว้นความผิดหรือยกเว้นโทษได้ทำนองเดียวกันกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 และมาตรา 330 การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9 และ 18, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯมาตรา 34 และ 51, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียงฯ มาตรา 4 วรรคหนึ่ง, 9 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำคุก 3 ปี, ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นการกระทำกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 เดือน ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 150 บาท

ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78กระทงละ 1 ใน 3 คงจำคุกฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำคุก 2 ปี ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับ อนุญาต จำคุก 20 วัน ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 100 บาท คงจำคุกรวม 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท

ให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 2841/2566และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 56/2567ของศาลอาญา ริบเครื่องปั่นไฟ จำนวน 1 เครื่อง ลำโพง 8 ตัว เพาเวอร์แอมป์ 1 เครื่อง เครื่องผสมสัญญาณเสียง 1 เครื่อง เครื่องรับสัญญาณไมโครโฟน 1 ตัว และไมโครโฟนไร้สาย 2 ตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางเพจ “TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน” ได้รายงานว่าปัจจุบันนายอานนท์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดี ม.112 รวม 3 คดีด้วยกัน รวมโทษจำคุกหลังลดหย่อนของทั้ง 3 คดีแล้วอยู่ที่ 10 ปี 20 วัน ทั้งนี้ นายอานนท์ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จากการปราศรัยและโพสต์ข้อความในช่วงปี 63-64 รวมทั้งสิ้น 14 คดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง