เช้านี้ที่หมอชิต - คนร้ายขับขี่จักรยานยนต์ 3 คัน เข้ามาถามหาคนขโมยไก่ ก่อนก่อเหตุแทงหนุ่มออกจับเขียดจนเสียชีวิตกลางทุ่งนา ภรรยาจุดธูปบอกวิญญาณสามี ตามหาคนทำร้ายให้คลานมากราบเท้า
เป็นเหตุการณ์ที่ นางสาวพรพิมล เพื่อขุนทด ภรรยาของ นายสมบูรณ์ ไทยรักชาติ ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่บริเวณที่เกิดเหตุกับลูกสาวและญาติพี่น้องเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) เพื่อจุดธูปเรียกดวงวิญญาณของสามี ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิตกลางทุ่งนา ให้กลับบ้านไปอยู่กับลูกกับเมีย โดยภรรยาเรียกสามีว่า "เจ้าของ" บอกดวงวิญญาณว่า ขอให้ติดตามคนที่ทำร้ายตัวเอง อย่าให้ได้ตายฟรี ทำให้สำเร็จให้ตำรวจตามจับให้ได้ เอาให้มันคลานมากราบตีนให้ได้
สำหรับเหตุการณ์ที่ นายสมบูรณ์ ไทยรักชาติ อายุ 35 ปี ถูกคนร้ายใช้มีดแทง เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 01.30 น.เมื่อคืนวานนี้ บริเวณทุ่งนาด้านทิศเหนือบ้านโนนคูณ หมู่ที่ 4 ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ต่อมา ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง ไปตรวจสอบ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน เวลาประมาณ 22.00 น. นายสมบูรณ์ กับเพื่อนและน้องชาย รวม 3 คน ได้ออกมาหาจับเขียดในทุ่งนาที่เกิดเหตุ จู่ ๆ มีกลุ่มคนร้าย 6 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มา 3 คัน เข้ามาจอดริมถนน แล้วลงมาสอบถาม นายสมบูรณ์ กับเพื่อน ขณะที่กำลังส่องเขียดว่า เป็นคนขโมยไก่ของกลุ่มคนร้ายหรือไม่ ทั้งหมดรีบบอกว่า ไม่ใช่ แต่กลุ่มคนร้ายกลับใช้อาวุธปืนและมีดออกมาสั่ง นายสมบูรณ์ และเพื่อนให้นอนลงกับพื้น ก่อนรุมทำร้าย แล้วใช้อาวุธมีดแทงที่เอวด้านขวาของนายสมบูรณ์ แต่ก่อนจะหลบหนี คนร้ายบอกกับเพื่อนและน้องชาย ให้คนโดนแทงพาไปหาหมอด้วย แต่ นายสมบูรณ์ ที่บาดเจ็บสาหัส ได้เสียชีวิตลง ไม่ทันได้นำตัวไปโรงพยาบาล
ภรรยาผู้ตาย บอกว่า เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกรณีน้องชายสามีไปหลอกเอาเงินเขามา แต่อ้างชื่อสามีแทน จนมีการโทรมาทวงที่ตน ซึ่งตนเคยต่อว่าน้องชายว่าจะทำให้พี่ชายตัวเองถูกทำร้ายได้ เรื่องนี้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องลักขโมยเชื่อว่าสามีตนเองไม่ทำแน่นอน
ส่วน นายประเสริฐ สมพร เจ้าของที่นาที่เกิดเหตุ ตอนนี้ก็ยังมืดมิดเดาไม่ได้ว่า สาเหตุของการทำร้ายร่างกายแทงกันมาจากสาเหตุใด เพราะผู้ตายเป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่เคยก่อความเดือดร้อนให้คนอื่น ตามดูกล้องวงจรปิดหลายแห่งก็ไม่พบเบาะแส
เมื่อวานนี้ ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานและร้อยเวรเจ้าของคดี มาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม เพื่อหาหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงไปถึงคนร้ายได้ ซึ่งต้องใช้เวลาสืบสวน และสอบปากคำคนที่อยู่ในในเหตุการณ์ เพื่อเร่งล่าตัวกลุ่มคนร้ายให้ได้
