“ภูเก็ต” ทำเลทอง แต่ปัญหาเพียบ กฎหมายเปิดช่องต่างชาติเกเร “เลขาฯ ป.ป.ช.” แนะใช้ป้องนำปราบ ลงพื้นที่ก่อนทำผิด ลดปัญหาสินบน

“ภูเก็ต” ทำเลทอง แต่ปัญหาเพียบ กฎหมายเปิดช่องต่างชาติเกเร “เลขาฯ ป.ป.ช.” แนะใช้ป้องนำปราบ ลงพื้นที่ก่อนทำผิด ลดปัญหาสินบน

View icon 34
วันที่ 2 พ.ค. 2567 | 11.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“เลขาฯ ป.ป.ช.” ลุยภูเก็ตแนะใช้ป้องนำปราบ ลงพื้นที่ก่อนพบการทำผิด หวังลดเรื่องร้องเรียน โดยเฉพาะปัญหาสินบน 

ภูเก็ต วันนี้(2 พ.ค.2567) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีทุจริตในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมจัดเสวนาประเด็น “สถิติคดีและเรื่องร้องเรียนของสำนักงานป.ป.ช.ภาค 8” และ “ สถิติคดีทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเข้าหาสาธารณะ” ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

นายนิวัติไชย กล่าวว่า นโยบายตอนนี้คือการป้องนำปราบ ลงพื้นที่ก่อนเกิดการกระทำความผิด ลดการร้องเรียน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเรียกรับเงินสินบนในพื้นที่ โดย จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ทองคำ ทำให้มีปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับคดีทรัพยากรธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางคดี เกิดขึ้นมา 10-30 ปี ป.ป.ช. พยายามแก้ไขปัญหาสะสมอย่างต่อเนื่อง ต้องพิสูจน์สิทธิ์ของประชาชนที่มีการครอบครองอยู่เดิมก่อน ว่าครอบครองอย่างถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ หากเป็นพื้นที่แนวเขตอุทยาน แนวเขตป่าไม้ หรือพื้นที่ ส.ป.ก. หรือแม้เเต่ที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่ยังไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน ก็ก่อให้เกิดปัญหาในการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ มีการออกเอกสารสิทธิ์อันเป็นเท็จ นำไปสร้างมูลค่าเพิ่ม / อีกทั้งมีชาวต่างชาติชาติเข้ามาจับจอง พยายามครองครอง ทำให้เกิดปัญหาในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เข้ามาช่วยกันคลี่คลาย โดย ป.ป.ช. ไม่เน้นงานปราบปราม เน้นป้องกัน ป้องไม่ให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น หรือไปไล่จับผิดภาครัฐ - เอกชน ที่มีส่วนในการกระทำผิด เอาตัวไปลงโทษ การไปไล่จับผิดคนไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง / แต่ต้องทำอย่างไรไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำซาก ซึ่งเราต้องร่วมมือกัน ต้องไม่ทำการทุจริต และไม่ทนกับการทุจริต และต้องไม่เพิกเฉยด้วย ในวันนี้ภาคประชาชนต้องมีความเข้มแข็งต้องไม่กลัว

ด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์   ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 11.6 ล้านคน โดยก่อนโควิดในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวกว่า 14 ล้านคน  ปีนี้คาดว่าน่าจะมากกว่า 14 ล้านคน  ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวปีที่ผ่านมาอยู่ที่  380,000 ล้านบาท  สามารถจัดเก็บภาษี  110,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภูเก็ตมีประชากรตามทะเบียนบ้าน  420,000 คน แต่มีประชากรที่เป็นคนต่างจังหวัดมาอาศัยอยู่ประมาณ 550,000 คน และนักท่องเที่ยวอีก 400,000 คน ทำให้มีประชากรประมาณ 1.2 ล้าน-1.5 ล้านคน   โดยตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากที่สุดคือนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย จีน และอินเดีย มีเที่ยวบิน 200 - 300 เที่ยวต่อวัน ยังไม่รวมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือสำราญอีกวันละประมาณ  2-3 เที่ยว

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่า เมื่อมีคนเข้ามาเยอะ ก็เกิดปัญหาขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์พิเศษ เพื่อติดตามชาวต่างชาติที่เข้ามาทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ เพิกถอนวีซาไปแล้วกว่า 100 คน แต่หากไม่เข้าเงื่อนไขที่กระทำผิดร้ายแรงที่ต้องเพิกถอนวิซา ก็มีอนุกรรมการฯ คอยติดตามพฤติกรรมเช่นกรณีนายเดวิดที่ทำร้ายร่างกายหมอ คดียังไม่ถึงต้องถอนวีซา แต่พฤติกรรมของนายเดวิดที่สะสมมาหลายอย่างพบว่าไม่ดี จึงเสนอแนะไปยัง ตม.ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายเดือดร้อนในบ้านเมืองควรถอนวีซ่า โดยคดีทำร้ายขณะนี้อยู่ในชั้นศาล  ขณะที่ปัญหาที่เกิดขึ้นนััน ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเพราะกฎหมายเปิดโอกาสให้ต่างชาติ  ต่างด้าวซื้อที่ บ้านเรือน รวมถึงคอนโดมิเนียมได้ 1 unit เป็นช่องที่ทำให้เดือดร้อนพอสมควร ไม่ใช่เฉพาะภูเก็ตรวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานยาก เพราะชาวต่างชาติมีสิทธิซื้อ โดยจะเกิดขึ้นมากในช่วงที่เกิดปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศขายยาก อีกทั้งเปิดช่องให้เกิดปัญหาซื้อเกินเลยไปอีก ดังนั้นเมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ทุกภาคส่วนราชการรวมพลังตามให้ทันเพราะมีหลากหลายพฤติกรรมโดยเฉพาะทางยุโรป เข้ามาแล้วปัญหามีความซับซ้อน  นอกจากนี้ภูเก็ตเป็นเกาะ จึงมีหาดอยู่รอบเกาะ จึงเกิดปัญหาจำนวนมากแต่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง  บางที่บางจุดอยู่ในการพิจารณาของศาล บางที่อยู่ระหว่างดำเนินการเป็นจำนวนมากและบางจุดสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ ตนคิดว่าปัญหาภูเก็ตเป็นเรื่องซับซ้อน  และสื่อมวลชนในท้องที่ทำงานได้ดีถือเป็นตาสับปะรดช่วยเจ้าหน้าที่

ส่วนเรื่องฝรั่งเกเรมีทุกวันและมีทุกรูปแบบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่พยายามรณรงค์ให้ภูเก็ตเป็นเมืองสะอาด  เมืองปลอดภัย  เมืองน่าอยู่สำหรับคนที่มาท่องเที่ยวและสำหรับคนภูเก็ตเอง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภูเก็ตเป็นสถานที่สำหรับคนมาเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป ซึ่งตนได้เสนอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตปกครองพิเศษเช่นเดียวกับพัทยา เพราะสามารถด้านงบประมาณและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้  พร้อมกันนี้ตนเห็นด้วยที่ป.ป.ช. เน้นเรื่องของการป้องกันการทุจริต เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองไม่เกิดความเสียหาย และคิดว่าพลังของประชาชนสื่อมวลชนรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาได้อย่างดี เป็นสิ่งสำคัญ ในการป้องกันการทุจริตให้ลดน้อยลงไปจนหมดไปได้