ญาติตัดพ้อ หลังรองผู้ว่าฯ กฟน.ปัดร่วมงานศพ ส่งเลขามาแทน

ญาติตัดพ้อ หลังรองผู้ว่าฯ กฟน.ปัดร่วมงานศพ ส่งเลขามาแทน

View icon 84
วันที่ 4 พ.ค. 2567 | 12.32 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ญาติตัดพ้อ หลังรองผู้ว่าฯ กฟน.ปัดร่วมงานศพ ส่งเลขามาแทน และยังไม่ได้รับคำขอโทษจากรองผู้ว่าฯ กฟน. โดยตรง มองว่าไม่จริงใจ!

จากเหตุการณ์สลดเมื่อวานนี้(3 พ.ค.) ที่มีชายวัย 59 ปี เสียชีวิตจากการตกไปในท่อร้อยสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งมีความลึกประมาณ 7 เมตร ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามซอยลาดพร้าว 49 ถนนลาดพร้าวแขวงสะพาน 2 เขตวังทองหลาง กทม. โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามอย่างสุดความสามารถในการช่วยเหลือผู้เสียชีวิต และพยายามอย่างมากในการนำร่างขึ้นมา ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่นิติเวช รพ.ตร. ว่า วันนี้ (4 พ.ค.) ญาติของนายกำธร จารุอนันต์ วัย 59 ประกอบไปด้วย พี่สาว 2 คน และน้องชายเดินทางมารับร่างผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยญาติได้เสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้กับผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย
    
น้องชายผู้เสียชีวิต เปิดใจกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามี รองผู้ว่าฯ กทม. ติดต่อมา เพื่อแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือเล็กน้อย ส่วนนายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ได้มอบหมายให้ทางเลขาฯติดต่อมาว่าจะมาร่วมงานศพ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเยียวยา ซึ่งตอนแรก ตนเองเข้าใจว่ารองผู้ว่าฯ กฟน.จะโทรมาขอโทษเอง และมาร่วมงานศพเอง แต่ปรากฏว่าเป็นการมอบหมายให้เลขามาแทน และตนเองยังไม่ได้รับคำขอโทษจากปากรองผู้ว่า กฟน. โดยตรง ซึ่งตนเอง มองว่าไม่มีความจริงใจ เป็นการให้สัมภาษณ์ออกสื่อเฉยๆ ไม่มีความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การให้เลขามาแทน ก็เหมือนผู้หลักผู้ใหญ่ให้ลูกน้องมา ถ้าไม่มีใครตามเรื่องก็คงเงียบหายไป และที่มีการขอโทษครอบครัวผ่านทางสื่อฯ ตนเองคงให้อภัยไม่ได้ และยืนยันจะฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเต็มที่ พร้อมถามย้อนกลับว่า "ให้เอาครอบครัวของคุณมาลองเดินผ่านฝาไม้อัดดูบ้าง และที่สำคัญที่สุด ผู้รับเหมาก่อสร้างก็ต้องรับผิดชอบดูแลฝาท่อให้ได้มาตราฐาน ไม่ใช่หลังข่าวออกก็เอาแผ่นปูนมาปิดทันที ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแผ่นปูนมีการเตรียมไว้พร้อมอยู่แล้ว แต่ไม่คิดจะทำ เพราะเวลาผ่านมา 7 เดือนนับจากที่โดนขโมยฝาท่อ แต่ก็ยังไม่ปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จ และการแก้ปัญหาฝาท่อถูกขโมย เหตุใดทางหน่วยงานตึงไม่ติดกล้องวงจรปิด เพราะหากติดกล้องฯคงจับได้แล้ว แค่ไม่คิดจะทำ ทั้งที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่

ดังนั้นตนเองก็ต้องพึ่งทาง สส.พรรคก้าวไกลในพื้นที่ และใช้เส้นสายทางการเมืองเข้าช่วย เพราะตนเองเป็นเพียงคนธรรมดา ถ้าต้องต่อสู้กับหน่วยงานใหญ่ๆระดับนี้ ไม่งั้นเรื่องคงไม่คืบ เพราะมันคือเรื่องธรรมดาในสังคม

พร้อมตัดพ้อถึงการเสียพี่ชายนี้ไปทำให้พี่สาวอีก 2 คน ไม่มีคนดูแลในระหว่างที่ตนต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ซึ่งตนมีงานที่ต้องรับผิดชอบ อีกทั้งในตอนนี้ต้องมารับหน้าที่แทนพี่ชายมาดูแลพี่สาวอีก 2 คน ซึ่งทำให้ตนเองลำบากมากขึ้น

ส่วนเรื่องการทำพิธีทางศาสนา หลังรับศพจากนิติเวช รพ.ตร. แล้วจะนำร่างไปเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะมำไปสวดอภิธรรมศพที่วัดธาตุทอง เขตวัฒนา กทม เป็นเวลา 2 คืน ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง