ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรายังคงเกาะติดกับเหตุเพลิงไหม้ 3 จุด ใน 3 จังหวัด คือ โรงงานกระดาษรีไซเคิล จังหวัดสมุทรสาคร, โรงงานยางพารา จังหวัดนครศรีธรรมราช และโรงงานผลิตเตียงและที่นอน จังหวัดอ่างทอง ทั้ง 3 จุด แม้ว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด แต่เพลิงก็ยังไม่ดับ
เพลิงไหม้โรงงานกระดาษรีไซเคิล ยังเหลืออีก 2 จุด จ.สมุทรสาคร
จุดแรก เพลิงไหม้โกดังเก็บกระดาษรีไซเคิล บริษัท ปัญจพลไฟเบอร์คอนเทนเนอร์ จำกัด (สาขาบางปลา) อำเภอเมืองสมุทรสาคร ที่ลุกไหม้มาตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 5 พฤษภาคม
สถานการณ์ล่าสุด ร้อยตรี ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทราบว่า ขณะนี้ไฟที่กองกระดาษ A ได้ดับมอดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือกอง B และกอง D ที่ยังคงพบเปลวเพลิงลุกไหม้อยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้สะเก็ดไฟปลิว แต่ยังไม่สามารถส่งรถแบ็กโฮ และเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานได้เต็มกำลัง ตามแผนได้
เนื่องจากโครงหลังคาที่ถล่มลงมาทับกองกระดาษ ซึ่งหากรถแบ็กโฮเข้าไปยกเหล็กหรือทับเหล็ก อาจจะเหนี่ยวรั้งให้เหล็กที่ยังยึดอยู่ในสภาพดีนั้น พังถล่มลงมา และเจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถที่จะฝ่าความร้อนของเหล็กเข้าไปได้ ส่วนจะดับไฟได้เมื่อใดนั้น ยังบอกไม่ได้ ทำได้เพียงควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก
หาสาเหตุเพลิงไหม้โรงงานยางพารา จ.นครศรีธรรมราช
ส่วนเหตุเพลิงไหม้ โรงงานยางพารา บริษัท ยูนิ-รับเบอร์ จำกัด ริมถนนสาย 41 อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ จุดที่เพลิงลุกไหม้เป็นห้องอบยางพารา 6 ห้อง กำลังอบยางพาราแบบแผ่นและแบบแท่ง 200 ตัน ทำให้เสียหายทั้งหมด
สถานการณ์ล่าสุด ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าระวัง ไม่ให้เปลวไฟปะทุขึ้นอีก โดยทางโรงงานได้สั่งปิดพื้นที่ ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐาน และตรวจสอบหาสาเหตุ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดความร้อนสูง หรือระบบการควบคุมความร้อน ทำงานผิดพลาด จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น
ควบคุมเพลิงโรงงานผลิตเตียง-ที่นอน ในวงจำกัด จ.อ่างทอง
อีกจุดคือที่โรงงานผลิตที่นอนและเตียงสำเร็จรูป พื้นที่อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง จุดนี้เพลิงไหม้เกิดขึ้นช่วงเย็นวานเช่นกัน เพลิงที่ลุกไหม้อย่างยาวนาน ทำให้โครงหลังคายุบตัวลงมา และยังมีกลุ่มควันปะทุจากกองไม้อัดที่อยู่ด้านในเป็นจุด ๆ เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังคงฉีดน้ำควบคุมอุณหภูมิ ไม่ให้เพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีก
ขณะที่ลูกชายเจ้าของโรงงาน บอกว่า โรงงานแห่งนี้เป็นแห่งที่ 2 ซึ่งทำเตียงสำเร็จรูปเป็นหลัก เพิ่งสร้างโรงงานเสร็จยังไม่ถึงปี มีวัสดุ เช่น ไม้อัด น้ำมันสน อยู่ด้านในเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ จึงคาดว่าน่าจะเกิดจากความร้อน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น โดยนอกจากตัวอาคารที่เสียหายกว่า 10 ล้านบาทแล้ว เตียงนอนสำเร็จรูปกว่า 300 ตัว ที่รอส่งให้ลูกค้า และเครื่องมือในโรงงานเสียหายทั้งหมด คาดว่ามูลค่าความเสียหาย น่าจะกว่า 20 ล้านบาท
