เตรียมสอบเพิ่มหนุ่มหื่นลวนลามและชิงทรัพย์สาวทางขึ้นบีทีเอส

เตรียมสอบเพิ่มหนุ่มหื่นลวนลามและชิงทรัพย์สาวทางขึ้นบีทีเอส พบก่อนก่อเหตุกับผู้หญิงบริเวณทางขึ้นบีทีเอส ได้ไปก่อเหตุลวนลามบผู้หญิงอีกคน บนสะพานลอย หน้าการเคหะสมุทรปราการ

จากกรณี นายอาร์ม อายุ 27 ปี หนุ่มหื่นเมายาโรเซ่ และ กัญชา ก่อเหตุลวนลามหญิงสาวที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีเคหะสมุทรปราการ ก่อนที่จะทำร้ายผู้เสียหายและชิงทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวานนี้ เวลา 09.30 น วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ก่อนที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านถนนท้ายบ้าน ซึ่งไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก

ซึ่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ) ก็ได้มีผู้เสียหาย เป็นหญิงสาว วัย 37 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนว่าถูก นายอาร์ม ลวนลามพยามถอดกางเกง เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้า วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น ซึ่งเหตุเกิดก่อนผู้เสียหายอีกราย โดย นายอาร์ม นั้นได้เดินมาทางด้านหลังและมาจับก้นหลังจากนั้นพยามถอดกางเกงของผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายแต่ถอดไม่ได้ นายสุทัศน์จึงหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงสะพานลอย หน้าการเคหะสมุทรปราการ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งโดย ล่าสุด ผู้เสียหายได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศแล้ว

ล่าสุดวันนี้ ( 8 พฤษภาคม 2567 ) ผู้ต้องหา ( นายสุทัศน์ ) ยังอยู่ในห้องควบคุม สภ.เมืองสมุทรปราการ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบถามคำเพิ่มเติม เนื่องจากการสอบปากคำยังไม่เสร็จสิ้น และ ผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเบอลยาโรเซ่ โดยในวันพรุ่งนี้ ( วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ) จะมีการส่งตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยการจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากกล้องงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ และ บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อม ข้อมูลที่เคยลงบันทึกไว้ จึงทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร จึงตามไปจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพัก โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 4 ข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายกระทำต่อหน้าธารกำนัล / กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยกระทำการลามกอย่างอื่น / ทำร้ายร่างกาย และ ลักทรัพย์

พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เผยว่า เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำผู้ต้องหาไปเรียบร้อยแล้ว และวันนี้มีการนำตัวผู้ต้องหาไปนำชี้ที่เกิดเหตุเรียบร้อย ส่วนตัวของผู้ต้องหาจะมีการดำเนินการนำตัวไปฝากขังในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาได้สารภาพว่าก่อเหตุทั้งหมด 2 ครั้งแล้ว และ มีผู้เสียหายมาแจ้งความทั้งหมด 2 ราย ซึ่งในคดีที่ได้รับแจ้งในคดีแรกคือ คดีที่ BTS เป็นคดีหลัก ส่วนคดีที่ 2 จะเป็นคดีที่ก่อเหตุก่อน คดีที่ BTS ประวัติการก่อเหตุของผู้ต้องหาเบื้องต้นคดีเกี่ยวกับเรื่องเพศไม่มี แต่ว่าจะเป็นคดีเกี่ยวกับประทุษร้ายต่อทรัพย์ คดีลักทรัพย์ จำนวน 2 คดี เป็นคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซึ่งตัวผู้ต้องหาเองเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์  

ส่วนแนวทางการป้องการ หลังจากเกิดเหตุก็ได้มีการวางมาตรการระวังภัยในส่วนของการที่จะเกิดเหตุในกลุ่มเสี่ยงบริเวณสถานที่ตลอดแนวของสถานีรถไฟฟ้าของ BTS ซึ่งเราได้วางมาตรการเกี่ยวกับการเก็บหลักฐานพยานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด รวมถึงการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่อง รปภ.ที่อยู่ตามสถานี เกี่ยวการพบหรือเผชิญเหตุต่าง ๆ ว่าจะมีแนวทางแก้ไขหรือจะมีการชี้แจงหรือแจ้งเบาะแสกับทางสถานีตำรวจอย่างไร มีการตรวจสอบอยู่ตลอด

ส่วนทางผู้เสียหายเองเบื้องต้นจากการได้พูดคุยเมื่อวานหลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหา ตัวผู้เสียหายเองก็ยังมีอาการเครียดอยู่ เพราะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจและทางร่างกายอยู่พอสมควร แต่พอได้พูดคุยก็ดีขึ้นในระดับหนึ่งแต่ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกอาจและเกิดในช่วงเวลากลางวัน

ส่วนเรื่องยาที่ผู้ต้องหาได้บอกว่ามีการกินเข้าไป มีชื่อยาว่ายา โรเช่(โรเซ่) จะเป็นยาที่อยู่ในกลุ่มของยากล่อมประสาท ยาพวกนี้จะออกได้ก็ต่อเมื่อมีใบรับรองแพทย์เท่านั้น แต่ว่าน่าจะมีขายในตลาดมืด ผู้ต้องหารับว่ากินไปประมาณ 10 เม็ด ก่อนที่จะไปทำการก่อเหตุ ซึ่งหลังจากที่กินยาตัวนี้ไปก็ไม่สามารถครองสติตัวเองอยู่ แต่ว่ารู้ตัว แต่ไม่สามารถคอนโทรลตัวเองหรือควบคุมตัวเองได้ และ ในทางกฎหมายถือว่ามีความผิด เพราะถือว่าเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง