หนุ่มบุกบ้านอริ ก่อนถูกยิงสวนเข้าท้องวิ่งหนีตายดับต่อหน้าแม่

หนุ่มบุกบ้านอริ ก่อนถูกยิงสวนเข้าท้องวิ่งหนีตายดับต่อหน้าแม่

View icon 261
วันที่ 10 พ.ค. 2567 | 08.07 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มบุกบ้านอริ ก่อนถูกยิงสวนเข้าท้องวิ่งหนีตายดับต่อหน้าแม่ มือยิงสารภาพ วันนี้เสพยา 3 เม็ด ไม่ได้ตั้งใจยิงอริ แต่เพราะอริมาหาเรื่องถึงที่บ้านจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ร.ต.ท.ศุภกร ทุมจีน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต กลางถนนหมู่กลางทุ่งนาท้ายหมุ่ บ้านหนองไผ่ หมู่ 5 ต.หนองนาคำ ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาห่างจากหมู่บ้าน 5 กิโลเมตร พบศพนายอุ๋ย อายุ 30 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กลางถนน สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ

จากการชันสูตรพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ บริเวณท้องกระสุนลูกปรายฝังใน และศีรษะด้านขวามีแผลแตกจากของแข็ง ส่วนมือยิงคือนายเล่ อายุ 26 ปี ตำรวจตามไปจับตัวได้ที่เถียงนา ซึ่งอยู่ห่างจากศพผู้ตาย 100 เมตร พร้อมอาวุธปืนแก๊ป ซึ่งหักเป็น 2 ท่อน ตรวจค้นบ้านยังพบอาวุธปืนแก๊ปอีก 3 กระบอก ดินปืน ลูกแก๊ป ลูกปราย 1 นัด เครื่องมือช่าง ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายเล่ มือยิงเล่าว่า ตนอาศัยอยู่เถียงนากับแม่ และทำปืนแก๊ปใช้ยิงนกยิงหนู โดยเปิดดูจากยูทูป ขณะที่ตนกำลังลองยิงปืนแก๊ปอยู่บนเถียงนา 2 นัด เป็นจังหวะที่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ผู้ตายได้จอดรถแล้วร้องใส่ตน พร้อมกับเดินเข้ามาในบ้านหาว่าตนยิงปืนใส่ ตนจึงถือปืนลงมา ผู้ตายปรี่เข้ามาหาตน ซึ่งตนเกรงว่าผู้ตายจะทำร้าย จึงยิงปืนใส่ผู้ตาย 1 นัด โดนที่หน้าท้อง แต่ยังไม่เสียชีวิต ผู้ตายได้เข้ามาแย่งปืนตน จึงเกิดการแย่งปืนกัน ทำให้ปืนหักเป็น 2 ท่อน ตนเอาด้ามปืนตีหัวผู้ตายแตก จากนั้นผู้ตายก็ได้วิ่งไปเถียงนาแม่  ซึ่งเมื่อ 2 ปี ก่อนผู้ตายเคยพูดลบหลู่พ่อตน ทำให้ชกต่อยกัน ซึ่งตนยอมรับว่าวันนี้เสพยา 3 เม็ด อยากขอโทษผู้ตายว่า “ไม่ได้ตั้งใจ”

ขณะที่ แม่ผู้ตายเล่าว่า ตนไม่มีลูก ได้ขอผู้ตายมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่อายุได้ 19 วัน พอโตขึ้นมาผู้ตายเกเร ติดยาเสพติด ดมกาว เสพยาบ้า ตั้งแต่ชั้น ป.6 จนถึงทุกวันนี้ และไม่ยอมทำงาน ผู้ตายมีพฤติกรรมไถเงิน แต่ไม่เคยทำร้ายแต่อาละวาดไล่ตนหนี ตนต้องแยกบ้านออกมาอยู่ที่เถียงนากับสามีใหม่ ปล่อยให้ผู้ตายอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านตามลำพัง  แต่ผู้ตายก็ยังขี่รถจักรยานยนต์มาไถเงินตนวันละ 200 บาท  ซึ่งเวลามาหาแม่ก็ต้องขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเถียงนานายเล่ ซึ่งเป็นบ้านมือยิงและเป็นคู่อริกัน

ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ที่กระท่อมนา ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ลูก ไม่นานได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด ต่อมาได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือ “แม่ช่วยผมด้วย พ่อช่วยผมด้วย ”  ตอนแรกก็ยังไม่กล้าไปดู ไม่นึกว่าจะเป็นลูกตัวเอง แต่สามีให้ตนเดินไปดูก็พบลูกนอนกุมท้องอยู่กลางถนน ผู้ตายเข้ามากอดขาตนร้องขอกินน้ำ บอกช่วยผมด้วยเจ็บมาก และให้โทรแจ้งรถพยาบาลด้วย ตนไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย จึงวิ่งกลับไปเอาโทรศัพท์ที่เถียงนา พอวิ่งกลับมาก็พบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว

“เมื่อหัวค่ำวานนี้ หมาหอนตลอด ตนคิดว่าจะเป็นเหตุที่เกิดกับชุมชน ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวตัวเอง ก็ถือว่าหมดเวรหมดกรรม เพราะรู้สึกเสียใจมาตลอด เอามาเลี้ยงแต่ลูกมาก็ไม่ดี และขอยกศพให้มูลนิธิไปเลย เพราะตนมีคนเดียวไม่สามารถจัดพิธีได้”

ส่วนแม่นายเล่ มือยิง เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ที่เถียงกับลูก 2 คน ตนจะออกมารับจ้างล้างจานตามร้านอาหารตั้งแต่เช้าทุกวัน ก่อนเกิดเหตุ หลังเลิกงานตนกลับมาบ้าน 1 ทุ่ม พบลูกชายนั่งอยู่ที่บ้าน และถามตนว่าตำรวจมารึยัง เพราะตนยิงนายอุ๋ยตายแล้ว ตนเห็นเป็นเรื่องทะเลาะของทั้งคู่ซึ่งเป็นคู่อริกัน จึงไม่ได้สนใจ แล้วก็ไปอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมา จึงรู้ว่าลูกยิงนายอุ๋ยตายจริง ซึ่งทั้งคู่เป็นอริกัน เพราะทะเลาะกันมา 2 ปีแล้ว เวลาผู้ตายขี่จักรยานยนต์มาหาแม่ที่เถียงนา ต้องผ่านหน้าบ้านตน ทั้งคู่จะร้องด่ากัน และผู้ตายเคยเข้ามาทำร้ายลูกชายถึงในบ้าน

“ยอมรับลูกชายเสพยาบ้า มีคนเอายาบ้ามาให้เสพ แต่ถ้าไม่ได้เสพ 3-4 วัน ก็ไม่เป็นอะไร จะกินข้าวแล้วก็นอน แต่ไม่เคยอาละวาดหรือทำร้ายร่างกายแม่ แต่ลูกสาวก็ย้ายไปอยู่ในเมือง หลานก็หนีไปอยู่ที่อื่น ตนจะไม่ประกันตัวลูก รับสารภาพทุกอย่าง และยกให้ตำรวจจัดการตามกฎหมาย และอยากให้พ่อแม่ผู้ตายอโหสิกรรมให้ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว  พูดตามความจริงลูกของเราก็ไม่ดีทั้งคู่”

ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวพร้อมอาวุธของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป