นายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย พ้นขีดอันตรายแล้ว หลังถูกมือปืนวัย 71 ปี พยายามลอบสังหาร หลังเดินทักทายผู้สนับสนุน ทางการสโลวาเกียคาดสาเหตุมาจากแรงจูงใจทางการเมือง
วันนี้ (16 พ.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากเหตุการณ์มือปืนพยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย ขณะออกมาทักทายผู้สนับสนุน หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งทางการเชื่อว่าเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง
ล่าสุด นายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย อายุ 59 ปี พ้นขีดอันตรายแล้ว โดยเหตุการณ์ลอบสังหารนี้ เกิดขึ้นหลังนายฟิโกเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เมืองแฮนด์โลวา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงบราติสลาวา เมืองหลวงของสโลวาเกียไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 190 กิโลเมตร และกำลังเดินทักทายผู้สนับสนุนหน้าสถานที่ประชุม
โดยมือปืนเป็นชายอายุ 71 ปี ซึ่งถูกรวบตัวได้ทันทีหลังยิงนายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก ถึง 5 นัด จนอาการสาหัส ซึ่งกระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าที่ท้องของนายฟิโก และอีกหนึ่งนัดโดนเข้าที่ข้อต่อ ซึ่งหลังเข้ารับการผ่าตัดหลายชั่วโมง ขณะนี้ นายฟิโก อาการยังทรง ๆ อยู่ นอกจากนี้สื่อของสโลวาเกียยังรายงานว่า มือปืนเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และเป็นสมาชิกของสมาคมนักเขียนแห่งสโลวัก
ทางการสโลวาเกีย เผยว่า ความพยายามลอบสังหารในครั้งนี้ มีแรงจูงใจทางการเมือง โดยเหตุการณ์นี้ สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ เนื่องจากประเทศสโลวาเกียเป็น 1 ในสมาชิกขององค์การนาโต (NATO) และสหภาพยุโรป (EU) ที่แทบจะไม่มีประวัติความรุนแรงทางการเมือง
ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายฟิโกกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของสโลวาเกีย เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เขาได้เปลี่ยนแปลงนโยบายต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ลดการสนับสนุนยูเครนแลพหันมาเจรจากับรัสเซีย นอกจากนั้น ยังพยายามลดบทลงโทษการทุจริต และรื้อสำนักงานอัยการพิเศษ รวมทั้ง ปรับปรุงสถานีโทรทัศน์สาธารณะ (RTVS) แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องให้ปกป้องเสรีภาพของสื่อก็ตาม
