ปกครอง สนธิกำลังค้นสำนักสงฆ์ บุกรุกพื้นที่เอกชน มั่วสุมเสพยา

ปกครอง สนธิกำลังค้นสำนักสงฆ์ บุกรุกพื้นที่เอกชน มั่วสุมเสพยา

View icon 442
วันที่ 23 พ.ค. 2567 | 17.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ไม่ยอมออก ปกครอง สนธิกำลังตรวจค้นสำนักสงฆ์ รุกพื้นที่เอกชนมั่วสุม พบเสพยา 2 ราย  นำสึกดำเนินคดี ทนาย ยันเจ้าของไม่เคยอนุญาตให้ใช้พื้นที่ เคยเชิญออกหมายครั้งแล้ว

จากกรณีมีเรื่องร้องเรียน พบเห็นบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ มาพำนักอาศัยในพื้นที่ของบริษัทเอกชน ในพื้นที่ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ประมาณ 30-50 รูป โดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นแหล่งมั่วสุมอบายมุขต่าง ๆ ซึ่งอาจไม่เหมาะสม เป็นที่เสื่อมศรัทธาต่อพุทธศาสนิกชน และขัดต่อประกาศห้ามภิกษุสามเณรเข้าไปพำนักอาศัย หรือดำเนินการใด ๆ ในสถานที่ดังกล่าว โดยให้ถือปฏิบัติตามคำสั่งมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัดนั้น

ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพวงแก้ว อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี นายคมสัน ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี, นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอหนองเสือ, พระครูสุจิตรัตนากร เจ้าคณะอำเภอหนองเสือ, พ.อ.วินัย อภัยกุญชร รอง ผอ.กอรมน.จ.ปทุมธานี, พ.ต.อ.ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัย ผกก.สภ.หนองเสือ, นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ร่วมประชุมแผนปฎิบัติการตรวจสอบที่ดินเอกชน ซึ่งใช้เป็นสำนักสงฆ์ ตั้งอยู่ใน ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี หลังชาวบ้านจำนวนมากร้องเรียนสำนักพุทธฯ ว่า มีบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ และมีพระสงฆ์ ประมาณ 30-50 รูป เข้ามาพักอาศัยนอกพรรษาตลอดทั้งปี และมีการนั่งดื่มสุรา เป็นแหล่งมั่วสุมอบายมุขต่าง ๆ นอกจากนี้ พระสงฆ์ ยังออกบิณฑบาต ในเวลาดึกตามสถานที่ต่าง ๆ และกลับเข้ามาบริเวณที่ตั้งเกือบเที่ยงวัน

ภายหลังจากประชุมหารือแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้เดินทางไปตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบผู้แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ และฆราวาสจำนวนมากพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 40 หลังคาเรือน จากการตรวจค้นที่พักในแต่ห้องพบพระสงฆ์ที่มีอุปกรณ์การเสพยาเสพติด 1 ราย และฆรารวาสมีการเสพยาเสพติด 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญพระสงฆ์ทุกรูปไปตรวจสอบใบสุทธิบัตรและทำการตรวจสารเสพติดที่วัดพวงแก้วอีกครั้ง พร้อมกับปักป้ายประกาศห้ามบุคคลใดบุกรุกที่ดินตรงนี้อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ภายหลังตรวจใบสุทธิของพระสงฆ์ 27 รูป พบว่าเป็นพระจริง แต่เมื่อตรวจสารเสพติด ผลปรากฏว่าพบสารเสพติด 2 ราย ดื่มสุรา 1 ราย ป่วยจิตเวช 1 ราย จึงได้ทำการสึกพระสงฆ์ที่เสพสารเสพติด และดำเนินคดี เพื่อสร้างความศรัทธาแก่พี่น้องประชาชนในด้านพระพุทธศาสนาสืบไป

ด้านนายบุญเชิด กล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียน จึงประสานเจ้าคณะอำเภอหนองเสือซึ่งเป็นเจ้าคณะปกครอง เพื่อตรวจสอบพบว่าพระสงฆ์ที่มีการร้องเรียนไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เอกชน ซึ่งเป็นการขัดคำสั่งของเถรสมาคมที่ห้ามพระสงฆ์สามเณรไปอยู่สถานที่ที่ไม่มีการให้ตั้งวัด จึงได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปเคลียร์พื้นที่ให้เอกชนดังกล่าว โดยในวันนี้จะมีการตรวจสอบพระสงฆ์ทั้งหมดว่ามีสังกัดหรือไม่ เพื่อส่งตัวกลับต้นสังกัด และคืนพื้นที่ให้เอกชน เนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนมาว่าพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ที่นี่บิณฑบาตกลับวัดช้าและไม่รู้ว่าไปที่ไหนมาบ้าง

ด้าน นายธีรวัฒน์ เหมมะรา ทนายความผู้รับมอบอำนาจเจ้าของที่ดินเอกชน กล่าวว่า ที่ดินผืนนี้เจ้าของไม่เคยอนุญาตให้ใช้เป็นที่พักหรือสำนักสงฆ์แต่อย่างใด โดยตนได้เคยมาเชิญพระสงฆ์ทั้งหมดออกจากพื้นที่ไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมออก จนกระทั่งมีชาวบ้านร้องเรียนถึงพฤติกรรมของพระสงฆ์เหล่านี้เข้ามาเป็นจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง