บ้านอากู๋ครอบครองปรปักษ์ ศาลสั่งจำคุกคนบุกรุก 1 ปี 8 เดือน

บ้านอากู๋ครอบครองปรปักษ์ ศาลสั่งจำคุกคนบุกรุก 1 ปี 8 เดือน

View icon 69
วันที่ 7 พ.ค. 2567 | 12.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลอาญามีนบุรี สั่งจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 22,000 บาท แก๊งบุกรุกบ้านอากู๋ อ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือคุก 9 เดือน ปรับ 11,000 บาท ฟากผู้เสียหายพอใจคำตัดสิน ลั่นไม่กลับเข้าไปอยู่แล้ว

ครอบครองปรปักษ์ วันนี้(7 พ.ค.2567) ศาลอาญามีนบุรี นัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางสาวศรีพรรณ จำเลยกับพวกรวม 4 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันลักทรัพย์ จากกรณีจำเลยทั้ง 4 คนกับพวกอีก 1 คน ซึ่งถึงแก่ความตายแล้ว ได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบ้านของ นายเหมทัศน์ ปราชญานุสิทธิ์ หรือ อากู๋ ผู้เสียหาย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันรื้อทุบผนังกำแพงคอนกรีตด้านหลังบ้านทำเป็นประตูเข้าออกบ้านของผู้เสียหาย ถอดประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน หน้าต่างกระจกบานไม้ ต่อเติมหลังคาจอดรถหน้าบ้าน ต่อเติมครัว เชื่อมหลังคาระหว่างบ้านของผู้เสียหายเข้ากับบ้านข้างเคียง และยังได้ลักทรัพย์เอาประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านขนาดความยาว 4 เมตร สูง 1.2 เมตร ราคา 8,000 บาท หน้าต่างกระจกบานไม้ 2 บานราคา 6,000 บาท ที่จำเลยกับพวกถอดเปลี่ยนออกไป รวมถึงเครื่องสุขภัณฑ์ราคา 4,000 บาท รวมทั้งสิ้น 3 รายการราคา 18,000 บาท โดยอ้างการครอบครองปรปักษ์ เบื้องต้นจำเลยทั้ง 4 คนได้รับการประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 50,000 บาท

ล่าสุด ศาลอาญามีนบุรีพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าจำเลยกับพวกกระทำผิดจริงในข้อหา ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น และร่วมกันลักทรัพย์ พิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 6 เดือน ปรับ 22,000 บาท แต่จำเลยกับพวกให้การรับสารภาพ ประกอบกับไม่เคยต้องโทษมาก่อน และอายุมาก ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 9 เดือน และปรับ 11,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ฝ่ายจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว 1 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงถอนฟ้องในข้อหานี้ไป เนื่องจากเป็นข้อหาที่ยอมความได้

ด้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผลคำพิพากษาในวันนี้พอใจแล้ว และอากู๋ก็พอใจ ไม่ติดใจ แต่อยากให้คดีนี้เป็นบทเรียน ต้องเคารพกฎของสังคมและกฎหมาย เมื่อทำผิดก็ต้องมีบทลงโทษ มีข้อบังคับ ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่ใครจะทำก็ได้ และเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนบ้านหลังดังกล่าวขอไปปรึกษาครอบครัวก่อนว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไร แต่ไม่กลับเข้าไปอยู่แน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง