เตือนแล้วเตือนอีก “เมาอย่าขับ” ! ชายวัย 27 เมาขับกระบะฝ่าสายฝนแหกโค้งชนประสานงารถบรรทุกพ่วง เจ็บเลือดอาบ
วันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 05.30 น. ร.ต.อ วิษณุ กฤตเลิศชาย รอง สว. สอบสวน สภ. ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนรถบรรทุกพ่วงมีผู้บาดเจ็บติดภายในรถยนต์หนึ่งคนจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเร่งนำอุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ติดค้างอยู่ในยานพาหนะบนถนนสาย นครหลวง- ท่าเรือ หมู่ 6 ต.สามเรือน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะสภาพหน้ารถพังยับจนถึงห้องเครื่องมีผู้ติดค้างอยู่ในรถ 1 คน ทราบชื่อคือนายณรงค์ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่จึงเร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยงนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงสามารถช่วยเหลือได้
ใกล้กันพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สภาพหน้ากันชนหน้ารถมีร่องรอยการเฉี่ยวชนตัวรถเสียหลักพุ่งชน ราวกั้นขอบทางถนนจนตัวรถขวางถนน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเคลียร์การจราจร
สอบถามนายณรงค์ คนขับรถกระบะ ผู้บาดเจ็บ อยู่ในอาการเมาสุราพูดเพียงสั้น ๆ ว่า กำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.สระบุรี จากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไรแต่ยอมรับว่าเมาสุรา
ด้านนายมนัส อายุ 61 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วงเล่าให้ฟังว่าตนเองกำลังจะขับรถไปขึ้นของที่ อ.บางไทร ขณะนั้นมีฝนตกตกลงมาโปรยปราย จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง รถยนต์กระบะของคู่กรณี สวนทางมาแล้วหลุดโค้งกินเลนพุ่งมาชนรถของตนเอง
ซึ่งตนเองพยายามขับหลบชิดซ้ายแล้วแต่ไม่พ้น จนทำให้รถยนต์กระบะพุ่งชนชนขับของตนเอง อย่างจัง ทำให้คนขับติดภายในรถ ตนเองจึงรีบลงจากรถเพื่อไปดูอาการคนเจ็บแล้วพยายามสอบถามแต่พบว่าคนขับพูดจาไม่รู้เรื่องอยู่ในอาการเมามากจึงได้โทรแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้น ร.ต.อ วิษณุ กฤตเลิศชาย รอง สว. สอบสวน สภ. ปากท่า ได้เชิญตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มาสอบสวนที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนคนเจ็บคงต้องรอให้อาการดีขึ้นและส่งตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งต่อไป