ตำรวจทางหลวง-หมวดทางหลวงมหาชัย รวบหนุ่มวัย 24 ปี งัดตะแกรงเหล็กประตูระบายน้ำริมถนนพระราม 2 หวังเอาไปขาย จนท.เตือนโทษสูงสุดคุก 5 ปี ปรับ 2 แสน
สมุทรสาคร (27 พ.ค.2567) ตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) นำโดย ร.ต.อ.ณัฐพล เทียนแก้ว รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. และ ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) ร่วมกับหมวดทางหลวงมหาชัย นายปภาวิน สายะศิลปี หัวหน้าหมวดทางหลวงมหาชัย และ นายสำราญ มิตยะ เจ้าหน้าที่ประจำโครงการก่อสร้าง ร่วมกันจับกุม นายกรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามลักทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์” โดยจับกุมได้ขณะกำลังพยายามงัดตะแกรงเหล็กกั้นประตูระบายน้ำ บริเวณถนนพระราม 2 กม.29 ขาออก ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) ได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ และต่อมาได้รับแจ้งจาก นายสำราญฯ เจ้าหน้าที่ประจำโครงการก่อสร้าง ว่าพบเห็นผู้ชาย มีท่าทางพิรุธเดินวนเวียนอยู่บริเวณประตูระบายน้ำ ริม ถ.พระราม 2 บริเวณ กม.29 ขาออก นายสำราญฯ พร้อมคนงานก่อสร้างจึงได้เฝ้าดูพฤติกรรมชายคนดังกล่าว ต่อมาไม่นานชายคนดังกล่าวได้ใช้แท่งไม้ที่นำติดตัวมางัดตะแกรงเหล็กที่กั้นประตูระบายน้ำ จนหลุดออกบางส่วน นายสำราญฯ และคนงานก่อสร้างจึงได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเข้าจับกุมตัวชายคนดังกล่าวที่กำลังพยายามงัดตะแกรงเหล็ก จากการตรวจสอบทราบว่าชายที่กำลังก่อเหตุลักทรัพย์ คือ นายกรวิชญ์ อายุ 24 ปี โดยจับกุมได้พร้อมกับของกลางคือไม้ลักษณะกลมยาว จำนวน 1 แท่ง และ ไม้ง่าม จำนวน 1 แท่ง
จากการสอบถามทราบว่า นายกรวิชญ์ ได้พยายามเอาแท่งไม้งัดตะแกรงเหล็กกั้นประตูระบายน้ำไม่ให้ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาตกลงไปซึ่งเป็นทรัพย์สินของกรมทางหลวง โดยขณะเกิดเหตุได้งัดรั้วเหล็กหลุดไปบางส่วนแต่ยังไม่สามารถเอารั้วเหล็กมาได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า นายกรวิชญ์ ได้กระทำความผิดฐาน “พยายามลักทรัพย์ที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์” โดยนายกรวิชญ์ให้การรับสารภาพตลอดข้ากล่าวหาว่า รับว่าตนเอาไม้ของกลางดังกล่าวงัดรั้วลวดเหล็กเพื่อต้องการเอารั้วลวดไปขาย ซึ่งได้งัดรั้วหลุดไปแล้วแต่ยังไม่เสร็จถูกจับกุมเสียก่อน และตนไม่ได้รับอนุญาตจากกรมทางหลวงแต่อย่างใดให้มายุ่งเกี่ยวกับทรัพย์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สำหรับกรณีการลักทรัพย์สินของทางราชการ เช่น สายไฟฟ้า ฝาเหล็กรางระบายน้ำ น็อตเสา หรืออื่นๆ ที่นำไปจำหน่ายเป็นเศษเหล็กที่ได้เงินกลับมาไม่มากนัก แต่พฤติกรรมนี้อาจส่งผลเสียต่อส่วนรวมอย่างมาก การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (10) “ผู้ใดลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุก 1 - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท” และผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายและสูญหายนั้นด้วย และสำหรับผู้รับซื้อทรัพย์สินของทางราชการต่างๆ อันได้มาโดยการลักทรัพย์ มีความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 200,000 บาท
