เครื่องออกกำลังกายราคาแพง ไม่โยงผู้ว่าฯ กทม. คนเก่า

เครื่องออกกำลังกายราคาแพง ไม่โยงผู้ว่าฯ กทม. คนเก่า

View icon 111
วันที่ 6 มิ.ย. 2567 | 10.50 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชัชชาติตั้งโต๊ะชี้แจงปมเครื่องออกกำลังกายราคาแพง ยันไม่โยงผู้ว่าฯ กทม. คนเก่า เร่งสอบสวนคู่ขนานกับ สตง. ถ้าพบผิดจริงดำเนินคดีไม่ละเว้น

วันนี้ (6 มิ.ย.67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีเพจชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย ออกมาโพสต์ข้อความหลังพบเห็นความผิดปกติในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ของ กทม. ในศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ กว่า 11 รายการ ที่มีราคาสูงเกินกว่าราคาในท้องตลาดเกือบ 10 เท่า ทำให้เกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ในสังคมขณะนี้ โดยผู้ว่าฯชัชชาติ ยอมรับว่า ปัญหาความไม่โปร่งใสเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นได้กับทุกองค์กร กทม. จะต้องเอาจริงเอาจังเมื่อเห็นว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจะต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อขยายผลต่อ ซึ่งกรุงเทพมหานครและรัฐบาลจะต้องร่วมมือกันในการปรับปรุง ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการจัดซื้อจัดจ้าง และปรับปรุง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ ในอนาคตต่อไป

ผู้ว่าฯชัชชาติ ยืนยันว่า กทม. ไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคากลาง เครื่องออกกำลังกายทั้งหมด เป็นราคาที่เคยซื้อมาแล้วในครั้งก่อนที่นำข้อมูลมาตั้งเป็นฐาน พร้อมยืนยันว่า การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายดังกล่าวไม่เกี่ยวกับผู้ว่าฯ คนก่อนอย่างแน่นอน เพราะการดำเนินการต่าง ๆ และงบประมาณที่ใช้ในการจัดซื้อเป็นงบประมาณปี 2566 ขณะนี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบเรื่องนี้คู่ขนานกันไป ซึ่ง กทม.ให้ความร่วมมือกับ สตง. 

ด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผู้ชนะการประกวดราคา มีการทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานครมาตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งเป็นผู้บริหารชุดก่อน 

ขณะที่นายสมบูรณ์ หอมนาน รองปลัด กทม. อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของการสืบราคา ว่ากระบวนการสืบราคาของเครื่องออกกำลังกาย เป็นการส่งหนังสือเชิญบริษัทที่มีมาตรฐานที่มั่นใจได้ว่าจะไม่ทิ้งงาน และไม่ทิ้งการให้บริการหลังการขาย และสินค้าต้องมีคุณภาพ โดยมีคณะกรรมการกำหนดราคากลางในแต่ละรายการจัดซื้อ ซึ่งแต่งตั้งตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ และตัวบุคคล ซึ่งจะไม่ตรงกันในแต่ละโครงการ โดยจะเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เช่น โครงการวงเงิน 10 ล้านบาท ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบอำนาจผู้อำนวยการสำนัก เพื่อพิจารณาการสั่งซื้อตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง

ทั้งนี้คณะกรรมการจะสืบราคาจากท้องตลาด ไม่น้อยกว่า 3 ราย หรือ 3 บริษัท แล้วนำมาประมวลราคา โดยใช้ราคาต่ำสุดเป็นราคากลาง ขอให้รอการตรวจสอบ หากคณะกรรมการกลางตรวจสอบราคาทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ละเว้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง