เจอตัวสาวจีนแล้ว ถูกตำรวจกับอัยการเรียกค่าไถ่ 25 ล้านบาท

เจอตัวสาวจีนแล้ว ถูกตำรวจกับอัยการเรียกค่าไถ่ 25 ล้านบาท

View icon 474
วันที่ 9 มิ.ย. 2567 | 09.16 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจอตัวแล้วสาวชาวจีน ถูกเรียกค่าไถ่ 25 ล้านบาท หลังพบกำลังเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า เจ้าตัวอ้างว่าถูกตำรวจอัยการจีนบอกให้โอนเงินไปตรวจสอบธุรกรรม และให้เดินทางออกนอกประเทศ โดยไม่รู้เลยว่าตำรวจและอัยการที่ว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพ ไปเรียกค่าไถ่จากพ่อแม่เธอซ้ำ

จากกรณีนายหมู ล่ามแปลภาษาจีน และรับหน้าที่เป็นตัวแทน คุณพ่อของหญิงสาวชาวจีนที่หายตัวไป เข้าแจ้งความกับตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง โดยให้ข้อมูลกับตำรวจว่า นางสาวซินเล่ย ลู่ (XINLEI LU) อายุ 27 ปี ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยกับเพื่อน ๆ กว่า 10 คน เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน บิดาซึ่งอยู่ที่ประเทศจีน ได้รับแจ้งจากชายคนหนึ่ง ให้โอนเงิน 5 ล้านหยวน  หรือประมาณ 25 ล้านบาท แล้วจะส่งลูกสาว กลับไปให้ที่เซี่ยงไฮ้

ล่าสุดช่วงค่ำที่ผ่านมา (8 มิ.ย.) ตำรวจเจอตัวนางสาวซินเล่ย ลู่ แล้ว หลังติดตามไล่กล้องวงจรปิด เห็นสาวชาวจีนออกจากโรงแรมในซอยสุขุมวิท 58 เพียงคนเดียว ก่อนจะไปพักต่อที่โรงแรมย่านพระโขนง และนั่งรถแท็กซี่ไปที่ห้างสรรพสินค้าย่านบางนา เมื่อตำรวจตามไปที่ห้าง ก็พบสาวชาวจีนหน้าตาเหมือนกับนางสาวซินเล่ย ลู่ กำลังเดินหิ้วของอยู่ในห้างฯ จึงเข้าตรวจสอบและพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่หายตัวไป จึงได้เชิญตัวไปสอบสวนที่ สน.พระโขนง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสาวซินเล่ย ลู่ บอกว่า กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเธอไปเรียนและทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ก็มีกลุ่มคนอ้างเป็นอัยการและตำรวจจีน ติดต่อมาหา ลักษณะคล้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์บ้านเรา ที่บอกว่านางสาวซินเล่ย ลู่ ทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ให้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายไปตรวจสอบจำนวน 17 ล้านเยน หรือประมาณ 4 ล้านบาทไทย และให้เธอออกนอกประเทศไปก่อน ห้ามติดต่อพ่อแม่ และให้เปลี่ยนซิมโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับให้เธอตั้งกลุ่มวีแชทขึ้นมาเพื่อให้คนร้ายคุยกับพ่อแม่ของเธอโดยตรง ทำให้เธอไม่รู้เลยว่า ขณะนั้นเอง ในกลุ่มวีแชทคนร้ายได้ขู่เรียกค่าไถ่เอาเงินจากพ่อแม่ของเธอเพิ่ม เธอจึงท่องเที่ยวไปตามปกติ ด้านแม่น.ส.ซินเล่ย ลู่กล่าวผ่านล่ามขอบคุณตำรวจไทยที่ช่วยติดตามลูกสาวได้อย่างปลอดภัย

สำหรับคดีนี้เกิดความเสียหายที่ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่เข้าข่ายกระทำความผิดในไทย ซึ่งผู้เสียหายก็ต้องไปแจ้งความที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง