บุกทลายคารังแก๊งเงินกู้นอกระบบ ดอกโหด ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือคิดเป็น ร้อยละ 60 ต่อเดือน
ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม จับกุมผู้ต้องหารวมกว่า 15 คน ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “บุคคลให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆอันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ,ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคล(กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต)”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งว่าถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบตามทวงเงินข่มขู่ ด่าทอถึงร้านค้าซึ่งเป็นบ้านของตนเอง และขู่จะทำร้ายหลายครั้ง เนื่องจากตนไปกู้ยืมเงินมาลงทุนค้าขาย โดยแก๊งเงินกู้นี้มีการคิดดอกเป็นรายวันสูงถึง ร้อยละ 2 ต่อวัน อีกทั้ง หากต้องการกู้เงิน 10,000 บาท วันที่รับเงินจะมีการหักค่าดำเนินการถึง 1,200 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง จึงรวบรวมพยานหลักฐานข้ออนุมัติศาลอาญา ออกหมายค้นบ้านที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นที่ตั้งเซฟเฮ้าส์ของแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งภายในซอยพหลโยธิน 59 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เพื่อหาพยานหลักฐานและตัวผู้กระทำผิด การเข้าตรวจค้นพบ นายมนตรีฯ แสดงตัวเป็นผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าวและเป็นผู้นำตรวจค้นกับพวกที่อาศัยอยู่รวมกัน
เมื่อสอบถามนายมนตรีฯ รับว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบจริงโดยมีเครือข่ายอยู่รวมกันที่บ้านหลังนี้เพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยแบ่งหน้าที่กันทำและมีนายทุนเป็นคนไทย เมื่อตรวจค้นจึงพบผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคนและพบของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาทต่อปี
และพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุน บัตรประจำตัวประชาชนของลูกหนี้ สมุดจดรายการลูกหนี้ที่กู้ยืม รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้วิ่งเก็บดอกเบี้ยรายวัน รวมถึงนามบัตรที่ไว้แจกตามสถานที่ต่างๆจำนวนมาก เพื่อการเชิญชวนให้กู้เงิน เมื่อตรวจค้นเสร็จสิ้นจึงเชิญตัว นายมนตรีฯ กับพวก นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินการต่อไป
