เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดเชิงเลน นนทบุรี พังถล่มเป็นแนวยาวกว่า 75 เมตร ต่อหน้าต่อตาพระและชาวบ้าน เจ้าอาวาส ชี้ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ เคยเตือนกรมชลประทานไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำ วานนี้ (9 มิ.ย.67) ที่บริเวณเขื่อนริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงวัดเชิงเลน ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ที่พึ่งก็สร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ พังถล่มทรุดลงมาเป็นแนวยาวกว่า 75 เมตร ต่อหน้าชาวบ้านและพระภายในวัด เกรงว่าเขื่อนจะดึงตลิ่งพังถล่มไปจนถึงตัววัดหรือบ้านเรือนแถวนั้น แต่เคราะห์ดีที่ความเสียหายหยุดลงแค่นี้
พระครูนนทคุณพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดเชิงเลน ที่ เปิดใจว่า โดยปกติแล้วที่วัดจะมีพุทธศาสนิกชนนิยมเดินมาปล่อยปลา และให้อาหารปลาที่เขื่อนนี้ แต่ดีที่ไม่มีคนอยู่
โดยเขื่อนนี้มีผู้รับเหมาที่ได้งานจากกรมชลประทานมาก่อสร้าง ซึ่งใช้เวลานานกว่าปกติ สร้างเสร็จก็พบพบรอยร้าวที่ตัวเขื่อน ที่โป๊ะท่าเรือก็เก็บงานไม่เรียบร้อย ลวดโผล่ออกมาเป็นอันตรายกับพระและชาวบ้าน โป๊ะหลุดหลายครั้ง เคยทำหนังสือทักท้วงไปที่ผู้รับเหมา และกรมชลประทาน ตั้งแต่ปี 2566 แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข บอกเพียงว่าให้ทนๆ ใช้ไปก่อน รอส่งมอบเสร็จ จนเกิดเหตุการณ์ขึ้น อยากให้รีบแก้ไขโดยด่วน
สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้เป็น โครงการระยะที่ 2 ของโครงการ ตั้งแต่หน้าวัดแสงศิริธรรม ถึงวัดเชิงเลน มีกำหนดก่อสร้างเมื่อปี 2560 และต้องส่งงานในปี 2564 แต่ติดช่วงโควิด-19 จึงส่งมอบงานไม่ได้ตามกำหนดจนถึงก็ยังไม่แล้วเสร็จ และก่อนหน้านี้เคยมีการทรุดตัวในหลายจุด
นายณรงค์ แก้วเกตุ ผู้ช่วยผู้ควบคุมงานเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน กล่าวว่า การทำงานอยู่ในช่วงดำเนินการอยู่ระดับหินที่ใส่ตลอดแนวพอใช้ได้ แต่มาทรุดลงอีก จะเร่งประสานให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูอีกที และจะแก้ไขให้เร็วที่สุด ประเมินเบื้องต้นระยะเวลาแก้ไขไม่นาน ส่วนเรื่องความรับผิดชอบนั้นทางผู้รับเหมาที่รับงานจากกรมชลประทานต้องรับผิดชอบแก้ไขดูแลอยู่แล้ว